เช้านี้ที่หมอชิต - จบลงไปแล้วกับการจำลองเหตุการณ์ในคดี "แตงโม นิดา" เสียชีวิต โดยพบว่าอาสาสมัครทุกคนปลอดภัย แต่ก็มีการตอบโต้กันอย่างดุเดือดระหว่างอาจารย์ปานเทพ กับ "ปอและแซน"
บทสรุปจำลองเหตุการณ์ แตงโม ตกเรือ
สาว ๆ จากมิสแกรนด์ฯ, ครูสอนดำน้ำ และ อดีตศัลยแพทย์ทั้งหมด 7 คน เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครจำลองเหตุการณ์คดี "แตงโม นิดา" ตกเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา
โดยจำลองเหตุการณ์ภายใต้โจทย์ต่าง ๆ กันตั้งแต่ 09.00 น. ไปจนถึงช่วงบ่าย และให้อาสาสมัครนั่งที่ท้ายเรือ ทำท่านั่งลงปัสสาวะ จากนั้นให้ทิ้งตัวลงน้ำ ซึ่งพบว่าอาสาสมัครส่วนใหญ่ทิ้งตัวไปทางกราบซ้าย ซึ่งจะไม่ตรงกับข้อมูลที่เพื่อนแตงโมบอกว่า ตกลงไปตรง ๆ แต่มีการจับที่เรือไว้นิดหน่อย จากนั้นถูกใบพัดเรือที่อยู่ด้านขวาดูดจนเป็นแผล
หลังจากจำลองเหตุการณ์พบว่าอาสาสมัครทั้งหมดปลอดภัย ไม่มีใครถูกใบพัดเรือดูด แม้บางคนไม่ได้สวมเสื้อชูชีพ หลังจากนั้นมีการแถลงข่าวและถามความเห็นอาสาสมัครทั้งหมด รวมถึงมีการแถลงสรุปผลโดยอาจารย์ปานเทพฯ กับนายอัจฉริยะ
ปอ-แซน ซัด จำลองเหตุการณ์แค่การละคร
ไปดูการแถลงข่าวของ "ปอ" กับ "แซน" ก่อน โดย "ปอ" และ "แซน" บอกว่า เห็นด้วยกับการจำลองเหตุการณ์เพื่อเคลียร์ความคาใจของสังคม แต่ไม่เห็นด้วยกับการจำลองเหตุการณ์ที่ไม่สมจริง ไม่อยู่บนพื้นฐานของคำให้การ และพยานหลักฐานทางคดี แซนเคยให้ปากคำว่า ทันทีที่ตกจากเรือ แตงโมได้เกาะท้ายเรือไว้ประมาณ 10 วินาที ก่อนหลุดออกจากเรือไป ไม่ใช่การตกเรือในลักษณะดีดออกจากเรือเหมือนที่จำลองเหตุการณ์กันวันนี้
ปานเทพ จับพิรุธคำให้การ ปอ-แซน
ไปกันที่การแถลงของอาจารย์ปานเทพฯ ก็มีการตอบโต้ทั้งปอและแซน เรื่องจำลองเหตุการณ์ไม่ตรง
อาจารย์ปานเทพฯ บอกว่าเป็นการจำลองตามคำให้การของแซน ที่เคยให้กับชั้นศาลว่า "แตงโมตกทางซ้ายมือของกราบท้ายเรือ" ประกอบกับหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ก็ตรวจแล้วพบว่า ไม่มีลายนิ้วมือ และ DNA มนุษย์บนเครื่องยนต์กับเบาะเรือ จึงชัดเจนว่าไม่มีใครเกาะท้ายเรือ ส่วนกรณีที่ปอบอกว่าเห็นแตงโมเกาะอยู่ 10 วินาที ก็ไม่ตรงกับคำให้การต่อศาล
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องคำให้การของแต่ละคนที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง อาทิ เรื่องแตงโมลอยคอในน้ำ โบกมือให้สัญญาณ ก่อนจมหายไป ไปจนถึงเรื่อง GPS ที่มีผู้เชี่ยวชาญพบว่ามีการเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน ข้อมูลพิกัดเรือที่ไม่สอดคล้องกับคำให้การของ ปอ และ โรเบิร์ต รวมไปถึงพิรุธในโทรศัพท์มือถือของแตงโม ที่มีการลบภาพและแช็ตบางส่วนออกจากเครื่อง
ด้านนายอัจฉริยะฯ เชื่อว่า เรื่องนี้มีตำรวจให้การช่วยเหลือคล้าย ๆ กับคดี "บอส อยู่วิทยา" ซึ่งในวันนี้ (17 ม.ค.) จะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ไม่ใช่เฉพาะคนบนเรือ แต่รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีด้วย
เวลา 10.00 น. อัจฉริยะเตรียมนำหลักฐานการจำลองเหตุการณ์ไปยื่นหนังสือให้ DSI ตรวจสอบเรื่องนี้ หวังให้คดีนี้ได้รับการตรวจสอบขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนคดีของ "บอส อยู่วิทยา" เพราะเป็นการวางแผนมาหลายปีเพื่อที่จะน็อก ตำรวจ อัยการ และคนที่ทำคดีแตงโมโดยไม่มีคุณธรรม
ไปดูความเห็นจากหลายฝ่ายที่มีต่อการจำลองเหตุการณ์ โดยพี่ชายของแตงโม คือ ต่อย ดายศ ก็ได้เดินทางไปดูการจำลองเหตุการณ์ พร้อมโพสต์ภาพตนเองกับครอบครัวอยู่ที่ท่าเรือว่า "มาที่นี่กี่ครั้งก็เศร้า หดหู่ และ แค้น โกรธ เกลียด พวกมันทุกตัว"
หลายฝ่ายมองการจำลองเหตุการณ์ ไม่ช่วยรื้อคดี
ขณะที่ "ผู้การแต้ม" มองว่าการจำลองเหตุการณ์ที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ไม่ได้ช่วยให้เกิดการรื้อคดี อีกทั้งคดีนี้มีการส่งศพไปชันสูตรถึง 2 รอบ ผลออกมาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน การตั้งข้อสังเกตว่าพยายามจะฆ่า หรือ ข่มขืนนั้น จึงเป็นเพียงการสร้างกระแส
เช่นเดียวกับ "ทนายเดชา" เห็นว่าการทดสอบการตกเรือ เป็นเพียงการสร้างพยานหลักฐานขึ้นใหม่ ไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ เพราะพยานหลักฐานใหม่ต้องเป็นของที่มีอยู่แล้ว แต่ไม่ได้อยู่ในสำนวนคดี และการจับพิรุธก็ไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่
ด้าน อาจารย์อ๊อด รองศาสตราจารย์ วีรชัย พุทธวงศ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มองว่าการจำลองเหตุการณ์ยังมีตัวแปรหลายอย่าง เช่น การใส่เสื้อชูชีพ และไม่ใส่เสื้อชูชีพก็ต่างกัน เพราะมีเรื่องของการลอยตัวอยู่บนผิวน้ำ ความเร็วเรือ อันนี้ส่งผลต่อแรงน้ำที่จะดึง กระแสน้ำธรรมชาติ ที่จะพัดพาไปทิศทางที่อาจแตกต่างกับกระแสท้ายเรือได้ สภาพอากาศและคลื่น ก็อาจทำให้ทิศทางการลอยตัวเบี่ยงเบนจากเส้นทางที่เรือผ่านได้เหมือนกัน
