สาวถูกอดีตผัวทำร้าย สาดน้ำกรด สากเบือตีหัวแตก หลังข่มขู่รีดไถขอเงิน 30,000 บาท แลกกับการถูกตำรวจยึดรถจักรยานยนต์ ล่าสุดศาลออกหมายจับแล้ว ตร.เร่งล่าตัว
วันนี้ ( 17 ม.ค.67) กรณีนางสาวมิว ถูกสามีข่มขู่จะเอาเงิน 30,000 ถ้าไม่ได้จะ เอาน้ำกดมาราดจะเผาบ้าน ให้กินข้าวผ่านธูป ล่าสุด นางจันทร์เพ็ญ อายุ 49 ปี เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ตนได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านว่าลูกสาวทะเลาะกับสามี เพราะหึงหวง ตนจึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านมาระงับเหตุ แต่พบว่าลูกเขยใช้สากเบือตีหัวลูกสาว และขาทั้งสองข้าง และทำร้ายร่างกายแม่ขณะเข้าห้ามปราม จากนั้นใช้แก้วเก็บความเย็นตีหัวซ้ำจนเป็นแผลฉกรรจ์
หลังเกิดเหตุแม่พาลูกสาวเข้าแจ้งความ ที่สภ. ปะทิว เจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดรถมอเตอร์ไซต์ของฝ่ายชาย ที่ไม่มีทะเบียนไปด้วย หลังจากนั้นลูกสาวก็พยามคุยดีเพื่อจะให้นำรถมอเตอร์ไซต์กลับมาคืน เพราะเป็นชื่อของลูกสาว จนกระทั่งได้มอเตอร์ไซค์กลับมาก็แยกย้ายกันไป แต่ฝ่ายชายก็ยังกลับมาหาเรื่องขอเรียกค่ามอเตอร์ไซค์ที่ตำรวจยึดไป ในราคา 30,000 บาท และข่มขู่ว่าหากไม่ชดใช้ จะทำร้ายครอบครัวฝ่ายหญิงจึงเป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันเรื่อยมา และสาเหตุที่ลูกสาวไปแจ้งกันจอมพลัง เพราะว่าฝ่ายชายจะมาทวงเงิน 30,000 บาทที่เป็นค่ารถที่เจ้าหน้าที่ยึดไป และขู่ว่าถ้าไม่ได้เงินจะเข้ามาทำร้ายครอบครัว จึงกลัวเรื่องความปลอดภัย
ด้านนายเสนอ กลอยสวาท ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.ทะเลทรัพย์ อ.ปะทิว เล่าว่า วันเกิดเหตุตนทำการปฐมพยาบาลให้กับผู้บาดเจ็บเพราหัวแตก ก่อนนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพบว่า ฝ่ายชายเป็นคนใจร้อน ขี้หึง มักทะเลาะกับภรรยาบ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุด
ด้านพ.ต.อ.จิโรจน์ สาธุการ ผกก.(สอบสวน)ฯ รรท.ผกก.สภ.ปะทิว สั่งการตรวจสอบ และได้ออกหมายจับ ข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรรายแก่กายหรือจิตใจ และลักทรัพย์ และขณะนี้มีข้อมูลว่า ผู้ต้องหาคือ นายธนกฤต ขับรถบรรทุกรับจ้าง อยู่ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี
