วันนี้ (17 ม.ค. 68) นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ให้ความรู้ด้านสุขภาพ โดยระบุถึง โรคกระดูกพรุน ภัยเงียบวัยทอง
1. ช่วงวัยทอง ร่างกายผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงอย่างมาก ซึ่งฮอร์โมนนี้มีหน้าที่ช่วยชะลอการสลายกระดูก พอเอสโตรเจนลดลง กระบวนการสลายมวลกระดูกก็เกิดเร็วขึ้น ทำให้กระดูกบาง เปราะ และแตกหักง่าย ผู้หญิงวัยทองมีโอกาสสูญเสียแคลเซียมในกระดูกถึง 1-2% ต่อปี ก็ไม่ใช่เปอร์เซ็นต์ที่น้อยหรือเรื่องที่ควรมองข้ามนะ เพราะยิ่งเวลาผ่านไป กระดูกก็จะยิ่งเสื่อมลง เพราะฉะนั้นการเสริมแคลเซียมจึงมีความสำคัญมากในวัยนี้ เพื่อช่วยชดเชยแคลเซียมที่ร่างกายสูญเสียไป และเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก ลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนและกระดูกหักในอนาคตนะครับ ซึ่งความน่ากลัวของการล้มคืออาจจติดเตียงหรือเสียชีวิตได้ เพระาฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ควรมองข้ามนะครับ
2. กระดูกของเรามีแคลเซียมเป็นองค์ประกอบหลักถึง 99% ซึ่งแปลว่าถ้าร่างกายขาดแคลเซียม กระดูกจะอ่อนแอและสูญเสียความหนาแน่นไปเรื่อยๆ สำหรับผู้หญิงวัยทอง การทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แหล่งแคลเซียมที่หาง่ายๆ เช่น นม โยเกิร์ต ผักใบเขียว ปลาเล็กปลาน้อย และเต้าหู้ นอกจากนี้ การทานแคลเซียมให้เพียงพอยังช่วยป้องกันการสูญเสียแคลเซียมในกระดูกได้อีกด้วย คำแนะนำสำหรับผู้หญิงวัยทองคือควรได้รับแคลเซียมวันละประมาณ 1,000-1,200 มิลลิกรัม ซึ่งสามารถได้จากอาหารในแต่ละมื้อ หรือเสริมด้วยผลิตภัณฑ์แคลเซียมก็ได้นะครับ
3. อีกอย่างที่ต้องดูแลควบคู่กันไปก็คือวิตามินดี ร่างกายไม่สามารถใช้แคลเซียมได้เต็มที่ถ้าขาดวิตามินดี วิตามินดีช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมจากอาหารเข้าสู่กระแสเลือด หากขาดวิตามินดี แคลเซียมที่เรากินไปอาจสูญเปล่าและไปไม่ถึงกระดูก วิตามินดีที่หาได้ง่ายๆ คือ แสงแดดยามเช้า (ก่อน 9 โมง) และอาหาร เช่น ไข่แดง ปลาแซลมอน และนมเสริมวิตามินดี สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยออกแดด การเสริมวิตามินดีแบบเม็ดอาจเป็นอีกตัวช่วย แต่ก็ควรปรึกษาหมอก่อนนะครับ การมีวิตามินดีและแคลเซียมในปริมาณที่สมดุลจะช่วยให้กระดูกแข็งแรงและป้องกันมวลกระดูกถูกทำลายในระยะยาวได้
4. นอกจากการทานแคลเซียมและวิตามินดีแล้ว การออกกำลังกายที่เหมาะสมก็ช่วยชะลอการสูญเสียมวลกระดูกได้ โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบแบกน้ำหนัก (weight-bearing) เช่น เดินเร็ว วิ่งเบาๆ หรือยกน้ำหนักเล็กๆ น้อยๆ นอกจากนี้ การปรับพฤติกรรมการกินก็สำคัญ เช่น หลีกเลี่ยงน้ำอัดลม อาหารเค็มจัด และแอลกอฮอล์ เพราะพวกนี้มีผลต่อการขับแคลเซียมออกจากร่างกาย ควรเลือกอาหารที่เป็นแหล่งของแคลเซียมหรือจะเลือกเป็นอาหารเสริมก็ได้นะครับ
หมอเจดฝากเป็นข้อคิดทิ้งท้ายด้วยว่า ฝากคุณผู้หญิง และคุณผู้ชายที่เข้าวัยทอง วัยทองเป็นช่วงเวลาที่ต้องดูแลกระดูกเป็นพิเศษ การเสริมแคลเซียมและปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ทานอาหารให้สมดุล ออกกำลังกาย และรับวิตามินดีจากแสงแดด จะช่วยลดการสูญเสียแคลเซียมในกระดูก และทำให้กระดูกยังแข็งแรงพร้อมรับมือกับช่วงวัยทอง