ยอดจัดเก็บยังต่ำ ค่าเข้าอุทยานฯ หมู่เกาะพีพี ผ่าน E-TICKET

ยอดจัดเก็บยังต่ำ ค่าเข้าอุทยานฯ หมู่เกาะพีพี ผ่าน E-TICKET

View icon 80
วันที่ 19 ม.ค. 2568 | 09.34 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ฉก.ฉลามอันดามัน ตรวจสอบเชิงรุก จัดเก็บค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี พบจ่ายผ่านบัตร E-TICKET แค่ 10% จนท.ยังต้องเสี่ยงหอบเงินล้าน นั่งเรือยางฝากแบงก์  

อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เป็น 1 ใน 6 อุทยานแห่งชาติ ที่นำร่องจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าชมผ่านระบบบัตร E-TICKET (Electronic Ticket) เพื่อป้องกันเงินรั่วไหลหรือเล็ดลอด เป้าหมายคือจะต้องยุติการเก็บเงินสด 100% ปรากฏว่า จากการลงพื้นที่ของทีมข่าวช่อง 7HD ร่วมกับชุดเฉพาะกิจติดตามมาตรการป้องกันการทุจริตในการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติ (ฉก.ฉลามอันดามัน) สำนักงาน ป.ป.ช. บริเวณจุดจัดเก็บอ่าวมาหยา เกาะพีพีดอน และเกาะไม้ไผ่ กลับพบว่า ประมาณ 90% ยังจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นเงินสด

ข้อมูล ณ วันที่ 12 ม.ค. 68 อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราฯ จัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าชม ณ จุดจัดเก็บอ่าวมาหยา เป็นเงิน 1,608,660 บาท เกาะพีพีดอน ประมาณ 100,000 บาท และเกาะไม้ไผ่ ประมาณ 80,000 บาท รวม 1,788,660 บาท ขณะที่จัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าชมผ่านบัตร E-TICKET มีประมาณ 230,000 บาท เท่านั้น หรือคิดเป็น 10% จากยอดจัดเก็บค่าธรรมเนียมทั้งหมด (ค่าธรรมเนียมทั้งหมดผ่าน 2 ระบบ ราว 2,000,000 บาท/วัน)

นายแสงสุรี ซองทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ยอมรับว่า บริษัทนำเที่ยวบางแห่งให้ความร่วมมือจองและจ่ายค่าธรรมเนียมผ่านบัตร E-TICKET แต่ส่วนใหญ่ยังจ่ายเป็นเงินสด โดยเฉพาะเรือหางยาว ซึ่งรับส่งนักท่องเที่ยววันต่อวัน เพราะไม่กล้าจองและสำรองจ่ายเงินล่วงหน้า ประกอบกับระบบมีความซับซ้อน ยุ่งยาก คืนเงินไม่ได้ หากนักท่องเที่ยวยกเลิก ทั้งที่ระบบบัตร E-TICKET มีข้อดี เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ต้องมีความเสี่ยงในการถือเงินสด กรณีเผลอหรือหลงลืม ตรวจสอบค่าธรรมเนียมขาด เจ้าหน้าที่ต้องควักกระเป๋าชดใช้ แต่อยากให้ระบบพัฒนามากขึ้นกว่านี้ด้วย

ด้าน นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 8 มองว่า การไม่จ่ายค่าธรรมเนียมผ่านบัตร E-TICKET จะทำให้เกิดความเสี่ยง จัดเก็บไม่ครบถ้วน เกิดการรั่วไหลหรือเล็ดลอดของรายได้ จนส่งผลให้รัฐได้รับความเสียหาย ฉะนั้นเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะสร้างแรงจูงใจให้จ่ายผ่านบัตร E-TICKET โดยกรมอุทยานแห่งชาติฯ ออกมาตรการหนุนเสริม ยกตัวอย่าง ในต่างประเทศ หากจองผ่านระบบออนไลน์ จะได้รับส่วนลด แต่ต้องกลับไปตรวจสอบว่า กฎหมายให้อำนาจดำเนินการได้หรือไม่ 

ขณะที่นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจฯ  เห็นว่า การจัดเก็บค่าธรรมเนียมยังมีช่องว่าง ในฐานะคณะทำงานฯ จะเฝ้าติดตามเรื่องนี้ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป

“พบว่ามีคนเล็ดลอด จึงประสานกับอุทยานแห่งชาติฯ ที่รับผิดชอบ หาแนวทางแก้ไขปัญหา ซึ่งเรื่องนี้ทราบมานานแล้ว แต่การแก้ไขต้องใช้เวลา ยืนยันจะติดตามเฝ้าระวัง มิฉะนั้นจะทำให้งบประมาณสูญหาย และเห็นได้ชัดเจนว่า เมื่อมีการเฝ้าระวังอย่างเคร่งคัด ทำให้อุทยานแห่งชาติฯ มีรายได้สูงขึ้นหลายเท่าตัว” หัวหน้าชุดเฉพาะกิจฯ ระบุทิ้งท้าย 

ท้ายที่สุด จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ชุดเฉพาะกิจฯ มีข้อสรุปเรียกร้องให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ บังคับให้จัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านบัตร E-TICKET รวมถึงแก้ไขระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ว่าด้วยการนำส่ง การเก็บรักษา และการใช้จ่ายเงินฯ พ.ศ. 2564 ข้อ 22 จากเดิม ให้หน่วยงานเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทกระแสรายวัน ให้แก้ไขเป็นให้หน่วยงาน หน่วยงานย่อย เปิดบัญชีเงินฝาก เพื่อให้หน่วยงานย่อยทุกหน่วยงานของกรมอุทยานแห่งชาติฯ สามารถเปิดบัญชีในการเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานแห่งชาติฯ ได้ แทนการจัดเก็บในรูปแบบเงินสดทุกกรณี พร้อมขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่นำส่งเงิน โดยจัดหาเรือที่ได้มาตรฐานแทนเรือยาง ซึ่งมีความเสี่ยง กรณีเกิดคลื่นลมแรง และอาจมีคนร้ายดักปล้นได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง