เจาะประเด็นข่าว 7HD - หนึ่งในวิธีป้องกันการรั่วไหลเงินค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติ คือ การใช้ระบบ E-Ticket แต่ที่ผ่านมากลับพบว่ายังไม่ค่อยสำเร็จ ไปติดตามจาก "คอลัมน์หมายเลข 7"
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เคยถูกร้องเรียนว่าอาจมีการทุจริตเงินค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติฯ จนทำให้หัวหน้าอุทยานฯ ในขณะนั้น ถูกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ผ่านมาเกือบ 10 ปี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพิ่มความเข้มข้นในการจัดเก็บรายได้
หนึ่งในมาตรการ คือ การจัดเก็บค่าเข้าชมผ่านบัตร E-Ticket นำร่องใช้ในอุทยานแห่งชาติ 6 แห่ง ตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งมีอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี รวมอยู่ด้วย
คอลัมน์หมายเลข 7 ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพร้อมกับคณะทำงานของ ป.ป.ช. ชุดเฉพาะกิจติดตามมาตรการป้องกันการทุจริตในการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติ
จุดจัดเก็บใหญ่ที่สุด คือ "อ่าวมาหยา" แต่กลับพบว่ามีนักท่องเที่ยวน้อยมากที่จ่ายค่าเข้าชมผ่านระบบ E-Ticket อ้างว่าระบบซับซ้อน ยุ่งยากกว่าการจ่ายเงินสด และบางคนหรือบริษัททัวร์บางแห่งไม่ทราบว่ามีระบบนี้
จึงเป็นจุดสำคัญที่ส่อว่าเงินน่าจะมีการรั่วไหล ทำให้รัฐอาจสูญเสียรายได้
เฉพาะวันที่ 12 มกราคม 2568 จุดจัดเก็บ "อ่าวมาหยา" จัดเก็บรายได้เป็นเงินสดมากถึง 1,608,660 บาท เกาะพีพีดอน ประมาณ 100,000 บาท และเกาะไม้ไผ่ ประมาณ 80,000 บาท
ส่วนการจ่ายผ่านบัตร E-Ticket ทั้ง 3 เกาะ พบว่า จัดเก็บรายได้ราว 230,000 บาท เท่านั้น หรือคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์
ในขณะที่การจัดเก็บรายได้ทั้ง 3 เกาะ ใน 1 วัน พบว่าไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท
เมื่อขาดแรงจูงใจ นั่นจึงทำให้การจองและจ่ายผ่านบัตร E-Ticket ไม่สัมฤทธิผล แต่เมื่อรวมเข้ากับมาตรการต่าง ๆ พิสูจน์ได้ว่าภาพรวมการจัดเก็บรายได้ดีขึ้น
มาตรการที่รัดกุมสะท้อนผลลัพธ์ชัดเจน เพราะรายได้เพิ่มมากขึ้น ก้าวกระโดดเป็นหลักล้านบาทต่อวัน
แต่น่าสังเกตว่าส่วนต่างของรายได้ที่ขาดหายไปหลายสิบปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นความผิดปกติบางอย่างของกระบวนการจัดเก็บ
#คอลัมน์หมายเลข7 #ต้านทุจริตตามติดกลโกง #ค่าเข้าชมอุทยานเเห่งชาติ
