ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ได้รับแจ้งมีเหตุชายคลุ้มคลั่งอาละวาด ทุบทำลายข้าวของในบ้านแตกเสียหาย สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้เป็นแม่ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ ไม่กล้าอยู่บ้าน ต้องวิ่งหนีไปขอหลบอยู่บ้านญาติ และขอให้เจ้าหน้าที่มาช่วยนำตัวลูกไปสงบสติอารมณ์และส่งรักษา เหตุเกิดที่บ้านโคกเกริ่น ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรและสายตรวจ รวมทั้งผู้นำชุมชน พร้อมอุปกรณ์ไม้ง่าม ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบนายสมบูรณ์ หรือ ทิดบูรณ์ อายุ 43 ปี เพิ่งสึกจากการบวชเป็นพระได้ประมาณ 1 เดือนเศษ ตะโกนโวยวายอยู่ในบ้าน และพบเศษชิ้นส่วนข้าวของเครื่องใช้ถูกทุบแตกเสียหายกระจัดกระจายทั้งภายในบ้านและหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปล็อกตัว โดยนายสมบูรณ์มีอาการคล้ายคนเมาพูดไม่รู้เรื่อง ได้แต่พูดกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่ไปจะนอน เจ้าหน้าที่จึงบอกว่าเดี๋ยวจะพาไปรักษา แต่เจ้าตัวก็บอกกลับว่า ไม่ไปรักษา ไม่ได้เป็นอะไร และแสดงอาการขัดขืนบอกแต่ว่าไม่ไป จะนอน พอถามว่าสาเหตุอะไรถึงได้ไปทุบข้าวของในบ้าน นายสมบูรณ์ก็ตอบว่า ก็บ้านผม แต่พอถามย้ำเครียดอะไรถึงทำแบบนี้ก็ไม่ตอบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำตัวนายสมบูรณ์ไปส่งที่ รพ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้แพทย์ทำการตรวจรักษา
จาการสอบถาม นางรุ่งอรุณ อายุ 63 ปี แม่ของนายสมบูรณ์ บอกน้ำตาว่า ลูกชายไม่มีประวัติเสพยาเสพติด แต่ชอบดื่มเหล้า ดื่มหนักมาก จนมีอาการทางจิต เคยส่งรักษา พออาการเริ่มดีขึ้นจึงให้บวชเป็นพระที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.บ้านกรวด โดยบวชอยู่หลายพรรษา กระทั่งช่วงเดือน ต.ค. 67 ที่ผ่านมา ขณะบวชเป็นพระ ลูกชายก็มีอาการคลุ้มคลั่ง คาดว่าน่าจะไม่กินยา ซึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล กระทั่งวันที่ 9 ธ.ค. 67 จึงได้สึกจากการเป็นพระแล้วออกมาอยู่บ้าน พอกลับมาอยู่บ้านก็จะซื้อเหล้ามาดื่มแทบทุกวัน เมื่อเมาก็จะชอบอาละวาดโวยวาย และเคยทำลายข้าวของพังเสียหายมาแล้วครึ่งหนึ่ง แต่ไม่เสียหายมากเท่าครั้งนี้ จึงจำเป็นต้องแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยพาลูกไปส่งรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากที่ลูกชายไม่ยอมกินยารักษาอาการทางจิตที่หมอให้มา เพราะเขาบอกว่าไม่ได้ป่วยเป็นอะไรจะกินทำไม ก็อยากให้รักษาลูกให้หายขาด จะได้ไม่คลุ้มคลั่งทำลายบ้านและข้าวของแบบนี้อีก กลัวจะไม่มีบ้านอยู่ หากปล่อยไว้ก็จะทำร้ายแม่หรือคนอื่นได้
ด้าน น.ส.นิชานันท์ จงกระชาติ ผู้ใหญ่บ้านโคกเกริ่น บอกว่า กรณีนายบูรณ์ เคยมีอาการหลอนและอาละวาดมาแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รุนแรงมีทุบทำลายข้าวของแต่ไม่มากเท่ากับครั้งนี้ แต่วันนี้เขาไปงานทำบุญฉลองอัฐิ ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ก็เมาป่วนงานเขา เจ้าภาพจึงขอให้กลับบ้าน เพราะกลัวจะเกิดความวุ่นวาย ด้วยความเมาจึงอาจจะทำให้ไม่พอใจ แล้วไปอาละวาดทุบทำลายข้าวของที่บ้าน จนคนเป็นแม่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยระงับเหตุดังกล่าว