ผบช.ภ.1 ลงพื้นที่ติดตามคืบหน้าคดี “ ตี๋ใหญ่ ” มือยิงอดีตครูเสียชีวิตคาพวงมาลัย ขีดเส้นตายต้องจับให้ได้ภายใน 7 วัน พร้อมตั้งค่าหัว 20,000 บาท
วันที่ 21 มกราคม 2568 พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พร้อม พล.ต.ต.นฤนาท พุทไทสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.อดิเรก โปธิปัน ผกก.สภ.บางปะอิน พร้อมชุดสืบสวนภาค 1 ชุดสืบสวนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชุดสืบสวนสภ.บางปะอิน เดินทางเข้ามาร่วมประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี ในการไล่ล่าตัว “ตี๋ใหญ่” มือยิงอดีตครูเกษียร ที่ตอนนี้ยังคงหลบหนี
พล.ต.ท.สุรพล เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนก็ได้รวบรวมพยานหลักฐาน นำไปสู่การออกหมายจับคนก่อเหตุ ล่าสุด คาดว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย จึงได้ให้คณะทำงานเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด โดยขีดเส้นใต้ไว้ที่ 7 วันต้องจับให้ได้ และได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตามชายแดน ที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีออกนอกประเทศ หากพบตัวก็สามารถจับกุมได้ทันที
พร้อมกันนี้ทางตำรวจยังอยากฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชน หากใครพบคนร้าย หรือพบบุคคลลักษณะใกล้เคียงกับคนร้าย สามารถแจ้งตำรวจได้ทันที โดยตั้งรางวัลนำจับ 20,000 บาท สำหรับบผู้ที่ให้เบาะแสนำไปสู่การจับกุม ส่วนปมเหตุคาดว่ามาจากเรื่องความแค้นส่วนตัว เพราะผู้ก่อเหตุกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาคดีฐานความผิดพยายามฆ่า แล้วได้มีการติดต่อไปหาผู้ตายเพื่อให้ช่วยหาทนายความให้มาต่อสู้คดี โดยคดีดังกล่าวศาลจะมีการนัดอ่านคำพิพากษา ในวันที่ 28 มกราคมนี้ แต่ระหว่างนั้นเกิดมีความขัดแย้งกัน จึงทำให้ผู้ก่อเหตุนัดผู้ตายออกมาเจอ
และคาดว่าคนร้ายได้มีการวางแผนการก่อเหตุมาล่วงหน้าไว้เป็นอย่างดี เพราะมีการโทรนัดให้ผู้ตายออกมาเจอ ขี่รถจักรยานยนต์ตามมาก่อเหตุ จากนั้นถอดเสื้อคลุมออก เปลี่ยนเป็นเสื้อสีแดงขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ก่อนะจะทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ข้างทาง เพื่อให้ตำรวจแกะรอยยากขึ้น ส่วนมือถือที่ตำรวจได้หาเจอยืนยันว่าเป็นโทรศัพท์ของผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีคนโทรเข้าแล้วไม่ได้รับสายจำนวน 34 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ว่าเป็นใครบ้าง ซึ่งข้อมูลนี้ตำรวจต้องไปแกะรอยเพิ่มเติม ที่แน่ ๆ ยืนยันได้ว่าเบอร์โทรศัพท์ของผู้ก่อเหตุ คือ หมายเลขเดียวกับเบอร์ที่ผู้เสียชีวิตบันทึกชื่อไว้ว่า “ ลค ตี๋ใหญ่ ” ซึ่งอาจจะย่อมาจาก “ ลูกความ ตี๋ใหญ่ ”
