แตกตื่นทั้งเมือง ประกาศออกเครื่องขยายเสียงในตลาด ว่ามีแก๊งลักเด็กอาละวาด ด้าน ผกก.สภ.ท่าพระ สั่งตรวจสอบทุกมิติพบเป็นเฟกนิวส์ ต้นเรื่องจากผู้ไม่หวังดีกุเรื่องให้พ่อค้าปลาทูนึ่งฟังจนมีการบอกต่อเป็นวงกว้าง
ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณลาจจอดรถตลาดสดแห่งหนึ่งใน ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ขณะเกิดเหตุการณ์ที่ลูกสาววัย 4 ขวบ เกือบถูกชายแปลกหน้าพาตัวลูกสาวไป โดยกล้องวงจรปิดจะเห็นเด็กหญิงคนหนึ่ง กำลังนั่งเล่นกองทรายอยู่ภายในลานจอดรถของตลาด จู่ๆมีชายแปลกหน้ามาป้วนเปี้ยนเดินวนรอบตัวเด็กหญิง สักพักได้เข้าไปจับแขน แต่โชคดีที่มีแม่ค้าในตลาดซึ่งรู้จักกับแม่ของเด็กและเคยเล่นกับเด็กหญิง มาพบและเรียกชื่อน้อง ทำให้ชายแปลกหน้าดังกล่าวเดินเลี่ยงออกไปทันที ก่อนจะจูงมือพาเด็กหญิงเข้าไปหาแม่ ขณะเดียวกันกับ ทางเสียงตามสายของตลาดประกาศเตือนภัย ระวังแก๊งขโมยเด็ก โดยมีเด็กถูกจับตัวไปแล้ว2คนให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดได้ทราบและระมัดระวังตัว แม่เด็กหญิงจึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเพิ่งเกิดเหตุกับลูกสาวตน จึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อเตือนภัยเพราะเจอกับตัว
ต่อมาผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังผู้โพสต์ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแต่ได้ให้ข้อมูลและภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุการณ์ที่ลูกสาววัย 4 ขวบ เกือบถูกชายแปลกหน้าพาตัวลูกสาวไป หลังเกิดเหตุ ตนเองไม่ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะลูกสาวตนเองไม่ได้รับอันตราย ชายดังกล่าวอาจเป็นเพียงคนมาซื้อของที่ตลาด และเข้ามาเล่นกับลูกสาวของตนเท่านั้น แต่ก็รู้สึกกลัวอยู่เช่นกัน จึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อเตือนภัยเพราะเจอกับตัว พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ท่าพระ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ระบุในโพสต์ว่าเกิดเหตุลักพาตัวเด็กไป2คน เพื่อทำการตรวจสอบเรื่องนี้กับทาง พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.ท่าพระ โดยทาง ผกก.สภ.ท่าพระ และทางชุดสืบสวน สภ.ท่าพระได้ทำการโทรศัพท์ตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงถึงต้นเรื่องที่มาที่ไปให้ผู้สื่อข่าวได้รับทราบไปพร้อมกัน โดยได้ทำการโทรตรวจสอบไปยังผู้โพสต์ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า เรื่องดังกล่าวนั้นทางตลาดได้มีการประกาศเสียงตามสายในตลาดเมื่อวานที่ผ่านมา ว่ามีเด็กหายในพื้นที่ท่าพระ โดยเป็นตำรวจท่าพระแจ้งเตือนภัยมาให้ระมัดระวัง และประจวบกับที่ได้เจอเหตุการณ์ของตัวเองในวันดังกล่าวด้วย
ทาง ผกก.สภ.ท่าพระจึงได้สอบถามว่าได้ข้อมูลต่อกับทางผู้ดูแลตลาดที่ประกาศเสียงตามสายประชาสัมพันธ์เตือนเรื่องดังกล่าว ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ข้อมูลมาอีกทอดหนึ่งจากพ่อค้าปลาทูนึ่ง ว่าตำรวจ สภ.ท่าพระที่รู้จักกันกับพ่อค้าปลาทูนึ่งให้ข้อมูลมาว่ามีการลักพาตัวเด็กไปแล้ว 2 คน เป็นเด็กชายและเด็กหญิงอายุ 2 ขวบ และให้ข้อมูลว่ารถที่คนร้ายขับมาเป็นรถเก๋งพร้อมกับระบุทะเบียนรถมาให้ด้วย จึงเชื่อว่าเป็นข้อมูลจริงจึงได้นำมาประกาศประชาสัมพันธ์เพื่อเตือนภัย
หลังจากได้ข้อมูลกับทางผู้ดูแลตลาดแล้ว ทางผกก.สภ.ท่าพระก็ได้ตรวจสอบต่อไปยัง พ่อค้าปลาทูนึ่งต้นเรื่องที่นำข้อมูลมาให้กับทางผู้ดูแลตลาดประชาสัมพันธ์ โดยให้ข้อมูลกับ ผกก.สภ.ท่าพระว่า ตัวเองได้รับสายจากชายคนหนึ่งซึ่งไม่รู้จักกันโทรศัพท์มาบอกว่ามีการลักพาตัวเด็กอยู่ในพื้นที่ สภ.ท่าพระ ให้ระมัดระวังบุตรหลาน เพราะมีเด็กถูกลักพาตัวไป 2 คนแล้ว พร้อมทั้งยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ตนเองจึงบอกต่อให้กับทางผู้ดูแลตลาดทราบเพื่อเป็นการช่วยกันระมัดระวัง กระทั่งมีการประชาสัมพันธ์เตือนภัยต่อๆกันออกไปเป็นวงกว้าง และพอโทรกลับหาชายลึกลับที่ให้ข้อมูลมาไม่สามารถติดต่อได้
ภายหลังจาก พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.ท่าพระ ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ได้แนะนำทุกคนให้ระมัดระวังเรื่องการแชร์ข้อความดังกล่าวออกไป เพราะเป็นข้อความเท็จ หรือเฟคนิวส์ ควรจะต้องมีการตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่กับทางเจ้าหน้าที่ก่อน ทั้งตำรวจ และฝ่ายปกครอง หากเป็นเรื่องจริงจึงค่อยช่วยกันโพสต์เตือนภัยหรือประชาสัมพันธ์ออกไป เพราะจะเกิดผลกระทบเป็นวงกว้างหากไม่ใช่เรื่องจริงทำให้คนแตกตื่น พร้อมทั้งให้ผู้โพสต์ทำการลบโพสต์ออกไป และโพสต์แก้ข่าวให้ตรงกับข้อเท็จจริงด้วยเพื่อความสบายใจของประชาชนที่ได้รับทราบข่าวดังกล่าว
พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.ท่าพระ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้น ภายหลังจากมีการโพสต์ลงในโซเชียลเมื่อวานที่ผ่านมา ตนเองได้ทำการตรวจสอบกับทางพนักงานสอบสวนที่เข้าเวรตลอดทั้งวันซึ่งมีทั้งหมด 3 คน ทราบว่าไม่มีใครมาแจ้งความกรณีลักพาตัวเด็ก หรือมีเด็กหายแต่อย่างใด พร้อมทั้งตรวจสอบไปยังไลน์กลุ่มที่มีสมาชิกทั้งตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น นักการเมืองท้องถิ่นทั้ง 3 ตำบลที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.ท่าพระ ทั้งต.ท่าพระ ต.ดอนช้าง และ ต.ดอนหัน ต่างยืนยันว่าไม่มีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่แต่อย่างใด กระทั่งข้อความดังกล่าวมีการแชร์ออกไปเป็นวงกว้างจนมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นเรื่องใกล้ตัวหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง
แต่จากการตรวจสอบแล้วทราบว่า มีผู้ไม่หวังดีกุข่าวขึ้นมาว่ามีการลักพาตัวเด็ก โทรศัพท์ไปบอกพ่อค้าปลาทูนึ่งแต่พอโทรกลับไปไม่สามารถติดต่อได้ พ่อค้าปลาทูนึ่งจึงนำเรื่องราวมาแจ้งต่อกับทางผู้ดูแลตลาดที่ตัวเองขายของอยู่ เพราะมองว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์กับประชาชนคนอื่นๆ และเป็นการเตือนภัย กระทั่งมีการประชาสัมพันธ์ออกไปเป็นวงกว้างดังกล่าว แต่ทั้งนี้ทางตำรวจได้ตรวจสอบแล้วยืนยันว่าไม่มีกรณีการลักพาตัวเด็กเกิดขึ้นในพื้นที่แต่อย่างใด