ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจเตรียมพาตัวหนุ่มอินเดียหัวร้อน ที่ขับรถเก๋งเบียดชนรถจักรยานยนต์ไรเดอร์ กระเด็นเสียชีวิต ไปฝากขังศาลฯ 2 ข้อหาหนัก ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย
ให้เห็นกันชัดเจนว่า ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเป็น 0 และผลการตรวจสารเสพติดในร่างกายก็ไม่พบ ส่วนภาพวงจรปิดไม่ต้องพูดถึง เท่าที่ปรากฏออกมา ไล่ตั้งแต่จุดที่ไรเดอร์ขี่รถจอดขวางหน้ารถของ นายเสรี คนขับรถเก๋ง แล้วกำลังจะนำโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายบันทึกภาพรถคันที่เป็นคู่กรณี นายเสรี ก็พยายามจะขับหลบออกไป แล้ว "ไรเดอร์" โมโห ใช้กำปั้นทุบกระจกข้างของรถเก๋ง อีกฝ่ายเลยฉุนขาด ลงมาชกต่อย และกระทืบ ก่อนขับรถไล่ตามกัน บนถนนสุขุมวิท จนไปประสบอุบัติเหตุช่วงประมาณซอยสุขุมวิท 10 เป็นเหตุให้ไรเดอร์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ตำรวจแจ้งข้อหากับ นายเสรี ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แม้เมื่อคืนนี้เจ้าตัวจะอ้างว่า เป็นอุบัติเหตุ และปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ไปก็ตาม
ส่วนบรรยากาศที่ สน.ลุมพินี เช้าวันนี้ มีพ่อ และเครือญาติ มาเยี่ยม นายเสรี ซึ่งพอกลุ่มญาติเห็นผู้สื่อข่าว ก็ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ และไม่ขอให้ข้อมูลใด ๆ กับสื่อมวลชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ่อของนายเสรี ที่ยกมือไหว้ขอปฏิเสธ ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันแอบเข้าไปหลบในห้องพนักงานสอบสวน
ตำรวจที่เฝ้าเวรหน้าห้องควบคุม ให้ข้อมูลว่า นายเสรี ไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ มีอาการท่าทีเหมือนผู้ต้องหาทั่วไป จากการพูดคุยก็ยังมีท่าทีปกติ โดยญาติได้นำน้ำดื่ม และชาแขกมาฝากเยี่ยม ซึ่งเจ้าตัวก็รับประทานได้
ทั้งนี้ ซึ่งหลังสอบปากคำเสร็จสิ้น ก็พาตัวไปขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวก็พยายามสอบถามว่าอยากขอโทษ รู้สึกไหม หรือใครเป็นคนเริ่มก่อน ผู้ต้องหาก็ไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น มีแต่นิ่งเงียบ และส่ายหน้า แต่ผู้สื่อข่าวก็ไปสังเกตเห็นว่าผู้ต้องหามีอาการสะอื้น ร้องไห้ ตั้งแต่เดินออกมาจากห้องขัง
ขณะที่ นางสาวสายใจ ตามบุญ ภรรยาของไรเดอร์ ไปทำเรื่องขอออกเอกสารเพื่อไปรับศพ พร้อมกับบอกว่า พ่อของนายเสรี ได้ติดต่อมาขอกราบขอขมาศพ ซึ่งตนก็อนุญาต แต่ยังไม่อโหสิกรรม หรืออนุญาตให้ผู้ก่อเหตุ เข้ามาขอขมา ยอมรับว่ายังโกรธมากอยู่ หลังจากนี้จะขอจัดการเรื่องงานศพให้เสร็จก่อน แล้วจะมาตามความคืบหน้าทางคดีอีกที
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า สามีของตนยั่วยุฝ่ายผู้ต้องหาก่อน เรื่องนี้มองว่า ไม่มีใครทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งไม่ว่าใครจะเป็นคนผิด ก็ไม่ควรก่อเหตุรุนแรงถึงขนาดนี้
ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 บอกว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาไม่ยอมให้การใด ๆ ในชั้นสอบสวน ในทุกประเด็น และขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น ตำรวจได้สอบถามเรื่องของการสำนึกผิดหรือการขอโทษ แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมตอบอะไร
ประเด็นนี้น่าสนใจ เมื่อกี๊พ่อบอกกับภรรยาของผู้เสียชีวิต ว่าลูกไม่เคยเป็นแบบนี้ แต่ที่ตำรวจได้ข้อมูลมา พบว่าผู้ต้องหาเป็นคนอารมณ์ร้อนมาก แต่ก็ไม่มีประวัติรักษาอาการทางจิต ซึ่งแม้ว่าผู้ต้องหาจะไม่ยอมให้การใด ๆ แต่ก็มีหลักฐานที่เห็นได้ว่า หลังมีปากเสียงกัน ผู้ต้องหาก็ได้เข้าไปเฉี่ยวรถของผู้ตาย 1 ครั้ง ก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะเอามือทุบกระจก แล้วเกิดการขับไล่ตามกันเหมือนที่เราเรียบเรียงภาพไปให้ดู ยืนยันแม้อีกฝ่ายจะเป็นลูกของนายห้าง ก็จะดำเนินคดีถึงที่สุด ตามที่ ผบช.น. สั่งกำชับให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ขอให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตมั่นใจ
ส่วนที่ฝ่ายนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ญาติที่รับเอกสารจาก สน.ลุมพินี ตอนนี้ก็เดินทางไปถึงที่นี่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนอยู่ระหว่างการรอดำเนินการขอรับศพ เพื่อเตรียมนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป