ผู้สูงอายุเฮถ้วนหน้า เงิน 10,000 บาทเฟส 2 ประกาศผลผู้มีสิทธิแล้ววันนี้ (22 ม.ค.68) โดยผู้ที่หน้าจอปรากฏว่า "ได้รับสิทธิ" และทำการผูกพร้อมเพย์เรียบร้อยแล้ว ก็รอรับเงินโอนเข้าบัญชีได้เลยในวันที่ 27 ม.ค.68 นี้
อ่านข่าว : ยินดีด้วย ได้รับสิทธิ 10,000 เฟส2 เช็กทางรัฐ ขึ้นหน้าจอนี้
แต่หากใครยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ให้รีบดำเนินการให้เรียบร้อยภายในวันนี้ เพื่อจะได้ทันรับเงินในรอบแรก ไม่เช่นนั้น ต้องรอไปรอบเก็บตกต่อไป ซึ่งเงิน 10,000 บาท นี้ กระทรวงการคลังจะทำการโอนผ่านบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับ "เลขบัตรประชาชน" เท่านั้น ไม่สามารถรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกไว้กับเบอร์โทรศัพท์ได้
อ่านข่าว : วิธีตรวจสอบ บัญชีธนาคารผูกพร้อมเพย์สำเร็จ รอรับเงิน 10,000
โดยล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก Krungthai Care ได้แนะนำวิธีการผูกพร้อมเพย์ สำหรับผู้สูงอายุที่มีบัญชีธนาคารกรุงไทย โดยสามารถทำเองได้ง่ายๆ ผ่าน 2 ช่องทางหลักดังนี้
1. ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
ขั้นตอน :
1.เปิดแอป Krungthai NEXT
2.เลือกเมนู "พร้อมเพย์"
3.เลือกหมายเลขที่ต้องการผูก (บัตรประชาชน)
4.อ่านและยอมรับเงื่อนไข
5.เลือกบัญชีที่ต้องการผูก
6.ตรวจสอบข้อมูล และ ยืนยันการสมัคร
2. ผ่านตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย
ตู้ ATM สีเงิน
ขั้นตอน :
1.สอดบัตร ATM/DEBIT เลือกบริการอื่นๆ
2.เลือก "พร้อมเพย์"
3.เลือกสมัครบริการ "พร้อมเพย์"
4.เลือกผูกด้วยเลขบัตรประชาชน
5.กรอกเบอร์โทรศัพท์มือถือ
6.ยืนยันข้อมูล
ตู้ ATM สีฟ้า
ขั้นตอน :
1.สอดบัตร ATM/DEBIT เลือก "บริการพร้อมเพย์"
2.เลือก "สมัครบริการพร้อมเพย์"
3.เลือกผูกด้วยเลขบัตรประชาชน
4.กรอกเบอร์โทรศัพท์มือถือ
5.เลือกประเภทบัญชีในบัตร
6.ยืนยันข้อมูล
กรณีที่ผ่านเกณฑ์ได้รับสิทธิเงิน 10,000 บาท แต่ผูกพร้อมเพย์ไม่ทันภายในวันนี้ (22 ม.ค.68) ก็จะถือเป็นผู้ที่สิทธิตกหล่น โอนไม่สำเร็จ ต้องรอรับเงินในรอบเก็บตกถัดไป
ซึ่งกระทรวงการคลังจะมีการโอนซ้ำให้กับผู้ได้สิทธิซ้ำอีก 3 รอบ (Retry) ตามไทม์ไลน์ ดังนี้
-โอนซ้ำครั้งที่ 1 รอบวันที่ 28 ก.พ. ต้องผูกพร้อมเพย์ภายในวันที่ 25 ก.พ.68
-โอนซ้ำครั้งที่ 2 รอบวันที่ 28 มี.ค. ต้องผูกพร้อมเพย์ภายในวันที่ 25 มี.ค.68
-โอนซ้ำครั้งที่ 3 รอบวันที่ 28 เม.ย. ต้องผูกพร้อมเพย์ภายในวันที่ 23 เม.ย.68
ตรวจสอบว่าตนเองลงทะเบียนพร้อมเพย์ไว้แล้วหรือยัง และลงทะเบียนไว้ที่ธนาคารใด ได้หรือไม่
สำหรับพร้อมเพย์นั้น สามารถผูกได้ 2 แบบ คือเบอร์โทรศัพท์มือถือ และหมายเลขบัตรประชาชน ซึ่งบัญชีรับเงิน 10,000 บาท ดิจิทัลวอลเล็ต จะต้องเป็นบัญชีที่ผูกกับพร้อมเพย์ ที่ใช้หมายเลขบัตรประชาชน ในการลงทะเบียนเท่านั้น ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย ได้แนะนำวิธีตรวจสอบไว้ดังนี้
1. กรณีลูกค้าติดต่อผ่าน call center เจ้าหน้าที่จะพิสูจน์ตัวตนของลูกค้าและสามารถตอบได้ว่า ลูกค้าได้ลงทะเบียนไว้กับธนาคารแล้วหรือไม่(โดยไม่บอกข้อมูลของธนาคารอื่น) และสามารถแนะนำลูกค้าให้ตรวจสอบข้อมูลด้วยตนเอง ด้วยวิธีการดังนี้
-ลูกค้าอาจใช้ Internet/Mobile Banking ของธนาคารที่ใช้บริการทำการตรวจสอบโดยสมัครลงทะเบียนอีกครั้ง ระบบของหลายธนาคารจะมีการตอบกลับว่าได้ลงทะเบียนไว้แล้ว และบอกด้วยว่าลงไว้กับธนาคาร
-ลูกค้าอาจจะไปที่สาขาที่ตนเองต้องการลงทะเบียน และลงทะเบียนอีกครั้ง(ต้องมีหลักฐานแสดงตัวตน) ระบบงานที่สาขาจะสามารถให้ข้อมูลในกรณีที่ลงทะเบียนซ้ำว่าลงทะเบียนไว้แล้วที่ธนาคารใด และสามารถแจ้งลูกค้าได้
2. ในกรณีต้องแก้ปัญหาให้ลูกค้า และลูกค้าแจ้งความประสงค์จะทราบข้อมูลว่าลงทะเบียนพร้อมเพย์ไว้แล้วแล้วที่ใดผ่าน call center ธนาคารต้องมีวิธีการพิสูจน์ตัวตนและขอความยินยอมจากลูกค้าในการเรียกดูข้อมูลส่วนตัว และจัดเจ้าหน้าที่ call center / เจ้าหน้าที่ส่วนกลาง ที่สามารถดูข้อมูลในระดับที่ลึกขึ้นเพื่อให้ข้อมูลแก่ลูกค้า
ส่วนกรณีการยกเลิกพร้อมเพย์จากธนาคารหนึ่งเพื่อมาลงทะเบียนกับอีกธนาคารก็สามารถทำได้ โดยจะมีผลทันที โดยเมื่อยกเลิกสำเร็จแล้ว ก็สามารถไปลงทะเบียนกับธนาคารแห่งใหม่ได้เลย
