แม่ร้องครูทำเกินไปไหม? ตีลูกชาย ป.2 จนแขนช้ำทั้งสองข้าง หลังไม่ยอมส่งการบ้านเรื่อง "การ์ดวันพ่อ" จ.นนทบุรี
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพของเด็กชาย อายุ 8 ขวบ นักเรียน ป. 2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยในภาพปรากฏให้เห็นรอยช้ำแดงบริเวณแขนและหัวไหล่ทั้งสองข้างของเด็กชาย พร้อมข้อความระบุว่า “สอบถามหน่อยค่ะ ลูกชายอยู่ ป.2 ไม่ได้ทำการ์ดวันพ่อส่งครู ครูตีที่น่องขาลายมาแล้ว 1 ครั้ง วันนี้มาตีอีก โดนแขนทั้งสองข้างแบบนี้ ควรให้แม่ทำยังไงดีคะ” ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก
ล่าสุดวานนี้ (22 ม.ค.68) ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบนางบุศยมาศ อายุ 43 ปี ผู้โพสต์ ซึ่งเป็นแม่ของเด็กชายคนดังกล่าว โดยเธอเผยว่า หลังจากที่สามีตนไปรับลูกชายกลับจากโรงเรียน พอถึงบ้านก็ช่วยลูกเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วพบรอยช้ำแดงเต็มแขนกับหัวไหล่ทั้งสองข้าง ตอนแรกถามลูกก็ไม่ยอมบอก แต่พอค่อย ๆ ถามไปเรื่อย ๆ ก็ยอมบอกว่าโดนคุณครูภาษาไทยตี เพราะไม่ได้ทำการบ้านเรื่องการ์ดวันพ่อไปส่ง หลังจากทราบเรื่อง ทางสามีตนจึงเดินทางกลับไปที่โรงเรียนอีกครั้งเพื่อสอบถามคุณครูที่ก่อเหตุ แต่ไม่พบตัวครูคนดังกล่าว พบเพียงครูประจำชั้นที่เข้ามาพูดคุยแทน โดยครูประจำชั้นได้ชี้แจงว่า จะรับเรื่องไว้ และแจ้งว่า ผอ.โรงเรียน ทราบเรื่องแล้ว แต่ไม่ได้เข้ามาชี้แจงหรือพูดคุยกับสามีตนโดยตรง
หลังจากไม่ได้รับคำชี้แจงที่ชัดเจนจากทางโรงเรียน ตนจึงตัดสินใจนำเรื่องราวและภาพถ่ายรอยช้ำของลูกชายมาโพสต์ในกลุ่มเฟซบุ๊กข่าวสาร-คนปากเกร็ดเพื่อขอความคิดเห็น โดยมีผู้คนจำนวนมากเข้ามาแนะนำให้ตนแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ก็มีบางความคิดเห็นที่มองว่าเด็กไม่ทำการบ้านจึงถูกลงโทษตามระเบียบ
อย่างไรก็ตาม หลังจากโพสต์ไปได้ไม่นาน ครูประจำชั้นได้โทรศัพท์มาหาตนและขอให้ลบโพสต์ โดยแจ้งว่า “ท่านผู้อำนวยการไม่สบายใจ และจะดำเนินการจัดการเรื่องนี้ให้” ตนจึงตัดสินใจลบโพสต์ไปก่อน แต่ยังคงมีความกังวลว่าเรื่องนี้อาจถูกปล่อยให้เงียบหายไป จึงขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ
หลังจากสอบถามลูกชายอย่างละเอียด ทราบว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วลูกชายเคยถูกคุณครูคนเดิมตีที่น่องขาขวามาแล้ว 1 ครั้ง และในวันนี้ก็ถูกตีซ้ำบริเวณแขนทั้งสองข้างอีก 2 จุด รวมทั้งหมด 3 ครั้ง โดยลูกชายบอกว่ามีเพื่อนร่วมชั้นอีกประมาณ 3 คนที่ถูกตีเช่นกัน แต่ลูกของตนเองเป็นคนที่โดนหนักที่สุด ตนยอมรับว่า ลูกชายมีความผิดที่ไม่ได้ทำการบ้านไปส่งตามกำหนด แต่ตนมองว่าร่องรอยบาดแผลที่ปรากฏนั้นรุนแรงเกินไป และทางสามีตนเชื่อว่าลูกชายอาจถูกตีไม่ต่ำกว่า 4-5 ครั้ง ทำให้ขณะนี้ลูกชายเกิดความหวาดกลัว ไม่อยากไปโรงเรียน และครอบครัวกำลังพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการย้ายโรงเรียนเพื่อความสบายใจของลูก ตอนนี้ลูกกลัว ไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว ตนจึงต้องคิดกันในครอบครัวว่าอาจจะต้องย้ายโรงเรียน เพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้อีก
นางบุศยมาศ ยังยืนยันว่า ครอบครัวต้องการคำอธิบายที่ชัดเจนจากทางโรงเรียนถึงเหตุผลของการลงโทษที่รุนแรง และขอทราบแนวทางการแก้ไขเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกกับนักเรียนคนอื่น พร้อมย้ำว่า ต้องการให้คุณครูที่ลงโทษเด็กออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง ขณะนี้ทางครอบครัวกำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะดำเนินการแจ้งความหรือไม่ โดยต้องการความมั่นใจว่าโรงเรียนจะมีมาตรการที่ชัดเจนเพื่อดูแลนักเรียนทุกคนให้ปลอดภัยจากการลงโทษที่รุนแรงเกินควร
