เพลิงโหมไหม้ป่าธูปกว่า 50 ไร่ กลางเมืองโคราช ท้องฟ้าแดงฉาน ระดมรถดับเพลิงนานกว่า 15 ชม. แต่ยังไม่สงบ ต้องเฝ้าระวังไฟปะทุซ้ำอย่างใกล้ชิด
เมื่อเวลา 20.50 น.ของวันที่ 23 ม.ค.68 เกิดเหตุไฟไหม้ป่าธูปเป็นพื้นที่กว้าง ที่บริเวณริมถนนเลียบนคร ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เปลวเพลิงลุกลามอย่างรุนแรงจนทำให้ท้องฟ้าช่วงค่ำคืนมีสีแดงฉาน สามารถมองเห็นได้จากทั่วทั้งเมืองโคราช ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ จึงได้เร่งนำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อม รถดับเพลิงเข้าพื้นที่เกิดเหตุ โดยพื้นที่ที่เกิดเหตุไฟไหม้นั้นเป็นป่าต้นธูปมีเนื้อที่กว่า 50 ไร่ ซึ่งเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง เพื่อฉีดน้ำสกัด จนในเวลา 02.50 น. จึงสามารถควบคุมไฟเอาไว้ได้บางส่วน แต่ไฟทั้งหมดนั้นยังคงมีการลุกลามไม่หยุด ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องคอยฉีดน้ำเลี้ยงเอาไว้ และเฝ้าระวังตลอดทั้งคืน เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามเข้าสู่บ้านเรือนประชาชนใกล้เคียง
ล่าสุดสถานการณ์ในช่วงเช้าวันนี้ (23 ม.ค.68) ยังคงมีจุดที่มีเพลิงไหม้อยู่หลายจุด สังเกตยังคงมีกลุ่มควันลอยขึ้นมาต่อเนื่อง พร้อมกับขี้เถ้าที่เกิดจากใบของต้นธูปลอยขึ้นมา และตกเข้าสู่บ้านเรือนประชาชน ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบป่าต้นธูปดังกล่าว ได้รับความเดือดร้อนต้องออกมา ทำความสะอาดทั้งรถและพื้นที่ในบริเวณบ้าน ที่เต็มไปด้วยขี้เถ้าจากใบต้นธูป นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงคอยเฝ้าระวังและใช้น้ำฉีดเลี้ยงเอาไว้อยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เมื่อช่วงสองทุ่มของคืนวานนี้เป็นเวลานานกว่า 15 ชั่วโมงแล้ว ก็ยังไม่สามารถทำให้ไฟดับสนิทลงได้ เนื่องจากพื้นที่บางจุดนั้น รถดับเพลิงเข้าถึงได้ยาก ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากการที่มีชาวบ้านลักลอบจุดไฟเผาขยะบริเวณริมทางถนนเลียบนครก่อนที่จะลุกลามเข้าสู่ป่าต้นธูป และทำให้เกิดเพลิงไหม้เป็นวงกว้างในครั้งนี้
ด้านนายณรงศักดิ์ เนาวบุตร ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เล่าว่า ไฟนั้นเริ่มไหม้ช่วงหัวค่ำ ก่อนที่ไฟจะเริ่มลุกลามและรุนแรง ในเวลาประมาณ 19.00 น. เศษ ซึ่งตนและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณข้างเคียงนั้น รู้สึกตกใจจนทำให้เมื่อช่วงคืนนี้ไม่ได้หลับได้นอนต่างผลัดกันมาคอยเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟนั้นรามเข้าที่พักอาศัย ซึ่งถือว่าโชคดีมากที่เมื่อคืนนี้ไม่มีลมพัด เพราะถ้ามีลมพัดอาจจะทำให้ไฟนั้นลุกลามเข้าบ้านเรือนประชาชนได้.