ห้องข่าวภาคเที่ยง - สุดท้ายก็ไม่รอด "สมรักษ์ คำสิงห์" อดีตนักมวยฮีโรเหรียญทองโอลิมปิก ที่ถูกดำเนินคดีฐานพยายามข่มขืนหญิงสาว อายุ 17 ปี ที่สุดวันนี้ศาลมีคำพิพากษาให้จำคุก 2 ปี 13 เดือน
ศาลจังหวัดขอนแก่น อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการ ยื่นฟ้อง "สมรักษ์" และ นายพิเชษฐ์ ชิเนหันทา หรือ "เป๊กโก้" เพื่อนสนิทนายสมรักษ์ เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในข้อหาร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี เพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย ร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร, พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยการใช้กำลังประทุษร้าย จากกรณีที่ "สมรักษ์" กระทำอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศ หญิงสาว อายุ 17 ปี ที่รู้จักกันในสถานบันเทิง เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2566
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน ฝ่ายโจทก์ พบว่า มีน้ำหนัก ผู้เสียหายเบิกความตามข้อเท็จจริง ยากที่จะเบิกความเชื่อมโยงกัน หากไม่ประสบเหตุจริง เพราะเป็นเรื่องน่าอับอาย เชื่อว่า ไม่มีจริตเสแสร้ง เอาความเท็จมาแจ้ง สอดคล้องผลการชันสูตรบาดแผล ร่องรอยความรุนแรงที่พบ จากการใช้แรงกดทับ ไม่ใช่การจับธรรมดา จำเลยที่ 1 (สมรักษ์) พยายามข่มขืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย แต่ไม่บรรลุผล
ฝ่ายจำเลย อ้างว่า ผู้เสียหายยินยอม ขัดกับคำเบิกความ พยานแวดล้อม รวมทั้งบาดแผลย่อมไม่เกิดขึ้น ไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง และหักล้างพยานโจทก์ได้
ศาลพิพากษาจำคุก รวม 4 ปี 8 เดือน จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ญาติ 50,000 บาท และผู้เสียหาย 120,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ตั้งแต่กระทำละเมิด ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง
หลังทราบคำพิพากษา นายสมรักษ์ ยังคงยิ้มได้ บอกเพียงสั้น ๆ ว่า ต้องสู้ต่อ เช่นเดียวกับนายอิทธิศักดิ์ อัฒกรณ์วิกรม ทนายความ ที่ระบุว่า ยังมีข้อเท็จจริงอีกมากที่ต้องวินิจฉัยเพิ่มเติม
