กระแสลมแรงและความแห้งแล้งทำให้ไฟป่าที่นครลอสแอนเจลิส ของสหรัฐฯ ลุกโหมขึ้นมาอย่างรุนแรงอีกครั้ง จนทางการต้องสั่งอพยพประชาชนนับหมื่นคน
ไฟป่าระลอกใหม่ลุกลามขึ้นอีกครั้ง วานนี้ (22 ม.ค.) ที่ลอสแอนเจลิสเคาน์ตี รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ และกำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว เผาไหม้พื้นที่ป่าไปแล้วเกือบ 24,000 ไร่ ซึ่งเป็นผลจากกระแสลมแรงและสภาพความแห้งแล้ง โดยไฟป่า "ฮิวจ์" (Hughes) เริ่มลุกไหม้ขึ้นในจุดที่อยู่ห่างจากทางเหนือของนครลอสแอนเจลิส ไปราว 50 กิโลเมตร และภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ไฟป่าฮิวจ์ ก็เผาไหม้พื้นที่ไปแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่งของขนาดไฟป่า "อีตัน" (Eaton) ที่สร้างความเสียหายอย่างหนักไปก่อนหน้านี้
ขณะที่ ทางการประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณทะเลสาบคาสเทอิก (Castaic Lake) ว่าจะต้องเผชิญกับภัยคุกคามที่อันตรายถึงชีวิต พร้อมมีคำสั่งอพยพประชาชนราว 19,000 คน และอีก 16,000 คน อยู่ภายใต้คำเตือนอพยพ ส่วนทางหลวงข้ามรัฐสาย 5 ที่เป็นเส้นทางหลักเชื่อมระหว่างทางเหนือ และทางใต้ต้องปิดการจราจรชั่วคราว เนื่องจากทัศนวิสัยย่ำแย่
ทั้งนี้ แม้ว่าภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจะกำลังปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ก็ยังคงไม่เชื่อในเรื่องโลกร้อน โดยตั้งแต่วันแรกของการสาบานตน เขาได้เซ็นคำสั่งฝ่ายบริหารถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส อีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีการลงนามเพิ่มการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิล และยกเลิกกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
