“นายกฯ” สายตรงจาก “ดาวอส” เร่งแก้ฝุ่นพิษ กำชับเข้มมาตรการห้ามเผา ไม่รับซื้อพืชจาการเผา

“นายกฯ” สั่งการข้ามทวีป ระดมกำลังแก้ฝุ่นพิษ ย้ำเข้มข้นมาตรการที่ทำอยู่ให้มากขึ้น จ่อวิดีโอคอนเฟอร์เร้นต์ตรวจการบ้านพรุ่งนี้        

วันนี้ (23ม.ค.68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อ 07:30 น. วันนี้ ตามเวลากรุงดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ตรงกับเวลา 13:30 น. ตามเวลาในประเทศไทย

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมผ่านระบบออนไลน์ กำชับข้อสั่งการที่ได้ประชุมเตรียมพร้อมรับมือฝุ่น ก่อนเดินทางไปปฏิบัติราชการต่างประเทศ ทั้งการแก้ไขแบบเร่งด่วนทันที แผนระยะสั้น และ ระยะยาว ดังนี้

กทม. ขอให้ผู้ว่าฯ กทม. ตัดสินใจทันที ทั้งเรื่องการประกาศหยุดเรียนของนักเรียนในสังกัด พร้อมกำชับเข้มงวด 9 มาตรการ เช่น ตรวจวัดตรวจจับรถยนต์ควันดำทุกประเภท ขอความร่วมมือทำงานหรือปฏิบัติงานในที่พัก (Work From Home) ควบคุมไม่ให้มีการเผาขยะหรือการเผาในที่โล่งทุกประเภท อย่างเข้มข้น เป็นต้น

กระทรวงศึกษาธิการ ให้ตัดสินใจพิจารณาดำเนินการ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน
         
กระทรวงอุตสาหกรรม งดการรับซื้ออ้อยไฟไหม้ และ ได้กวดขันโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปรามเขาตรวจสอบเป็นระยะ

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  บังคับใช้กฎหมายส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวดกับผู้เผาป่า เผาตอซังข้าว ข้าวโพด อ้อยและพืช ในทุกหมู่บ้านทุกอำเภอทั้งประเทศ  ดำเนินคดีกับผู้เผาป่า ด้วยกฎหมายป่าไม้ที่เกี่ยวข้องทุกฉบับ 
กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้มห้ามนำเข้าอ้อยไฟไหม้ รวมทั้งพืชเกษตรอื่น ๆ ที่ผ่านการเผา อย่างเด็ดขาด

หน่วยงานความมั่นคง และกรมศุลกากร เข้มงวดตรวจสอบการลักลอบการนำเข้าพืชที่ผ่านการเผาทุกชนิดตามแนวชายแดน

กระทรวงมหาดไทย ได้กำชับ กทม. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ให้ควบคุมการก่อสร้างในเขตพื้นที่รับผิดชอบกำหนดมาตรการป้องกันการปล่อย PM 2.5 จากไซต์งานก่อสร้าง

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ขึ้นบินปฏิบัติการต่อเนื่องการเจาะชั้นบรรยากาศเร่งระบายและลดการสะสมของฝุ่น PM 2.5

เร่งพัฒนา Platform ฐานข้อมูลกลางเกี่ยวกับ hotspot และ ventilation โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม หรือ low cost sensors เพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ นำไปใช้ในการแก้ปัญหาการฟุ้งกระจายของ PM2.5 อย่างบูรณาการ

กระทรวงการต่างประเทศ หารือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อร่วมมือและให้ความช่วยเหลือในการลดปัญหาฝุ่นควันข้ามพรมแดน

กระทรวงสาธารณสุข ให้ สธ. ทั่วประเทศ เข้ม 5 มาตรการ (1) ให้ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขเตรียมพร้อม (2) เร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุกและสร้างความรอบรู้ภัยสุขภาพ (3) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ (สสจ.) จัดทีมปฏิบัติการทางการแพทย์ลงพื้นที่ดูแลกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง (4) ขยายบริการด้านการแพทย์สาธารณสุขให้ครอบคลุม เช่น เพิ่มห้องปลอดฝุ่น มุ้งสู้ฝุ่น และ (5) สนับสนุนอุปกรณ์เวชภัณฑ์ต่างๆ เช่น หน้ากากอนามัย อย่างเร่งด่วนต่อไป

และ วันพรุ่งนี้ (24ม.ค.) นายกรัฐมนตรี จะวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากสมาพันธรัฐสวิส เพื่อประชุมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนอีกครั้ง