ไฟป่าลุกท่วมเขาภูลำไยโคราช ยังเข้าดับไม่ได้ เหตุอยู่ในพื้นที่ซ้อมรบทางทหาร ล่าสุด กองทัพภาคที่ 2 และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน โสนธิกำลังร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่ เพื่อหาวิธีควบคุมสถานการณ์เป็นการเร่งด่วนแล้ว
วันที่ 23 มกราคม 2568 มีรายงานเหตุไฟป่าที่บริเวณที่ชาวบ้านเรียกกันว่าสนามเป้า บนเขาภูลำไย ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างพื้นที่ตำบลครบุรีใต้ อ.ครบุรี และ ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยไฟได้เริ่มลุกไหม้และมีกลุ่มควันขึ้นเห็นได้ชัดเมื่อประมาณช่วงเที่ยงของวันที่ 23 ม.ค.68 ที่ผ่านมา ก่อนจะลุกลามเป็นวงกว้างหลายกิโลเมตร และยิ่งมองเห็นได้ชัดเจนในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งมีรายงานว่าจุดที่เกิดไฟไหม้ป่านั้นเป็นภูเขาลูกเดียวกันกับสนามฝึกยุทธวิธีกองทัพภาคที่ 2 (ภูลำไย) ที่ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการฝึก จึงทำให้ยังไม่สามารถที่จะส่งกำลังเข้าไปดับไฟป่าที่เกิดขึ้นได้ เพราะยังไม่พิสูจน์ทราบได้ว่าจะยังมีวัตถุอันตรายอย่างกระสุนปืนจากการฝึกหลงเหลืออยู่ในพื้นที่หรือไม่
จากการสอบถามนางสาวจุฬาลักษณ์ เทียรกิ่ง ผู้ใหญ่บ้านมาบพิมาน หมู่ที่ 9 ต.ครบุรีใต้ ซึ่งเป็นมีพื้นที่ส่วนหนึ่งคาบเกี่ยวกับเขาภูลำไย จุดที่เกิดไฟป่า บอกว่า จุดที่เกิดไฟป่า เป็นจุดที่เรียกกันว่าสนามเป้า เขาภูลำไย ซึ่งเป็นจุดที่ทางทหารใช้ในการฝึกซ้อมยิงปืนใหญ่ และก็มักจะเกิดเหตุไฟป่าขึ้นเป็นประจำแทบทุกปี แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นไฟป่าที่อยู่ในวงจำกัด และไม่ได้ลุกลามออกมาถึงพื้นที่การเกษตรหรือบ้านเรือนของชาวบ้าน เพราะแหล่งชุมชนอยู่หากจากเขาลูกนี้ประมาณ 4 – 5 กิโลเมตร
ทางด้านนายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ให้ข้อมูลว่า พื้นที่เขาภูลำไย นั้น ส่วนหนึ่งอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติทับลาน และส่วนหนึ่งทางกองทัพภาคที่ 2 ใช้ในการฝึกซ้อมทางยุทธวิธี ซึ่งก็จะมีการใช้กระสุนปืนใหญ่อยู่เป็นประจำ ทำให้เป็นพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะมีวัตถุระเบิดในพื้นที่ จึงทำให้เมื่อเกิดเหตุไฟป่า การเข้าไปดับไฟมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอันตรายได้ แต่อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการทำแนวกันไฟไว้ก่อนแล้วในระดับหนึ่ง ซึ่งหลังจากนี้อาจจะต้องมีการหารือร่วมกันระหว่างทางกองทัพและอุทยานแห่งชาติทับลาน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหานี้ให้หมดไปโดยเร็ว
ทั้งนี้ล่าสุดมีรายงานว่า ในวันที่ 24 ม.ค.68 นี้ ทางกองทัพภาคที่ 2 และทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน โดยสถานีควบคุมไฟป่าทับลาน จะสนธิกำลังร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่ เพื่อหาวิธีควบคุมสถานการณ์เป็นการเร่งด่วน.
