จับสึกทั้งคู่! พระซดยาลมผสมเหล้าขาว ซิ่งรถหลุดโค้งทะลุห้องน้ำชาวบ้านพังยับ สารภาพ ขับรถจากวัดตัวเองมาดื่มกับพระอีกวัดหนึ่ง ก่อนเกิดอุบัติเหตุ จ.อุทัยธานี
วานนี้ (24 ม.ค. 68)ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากผู้ที่เสียหาย คือ นายธนวัตร อายุ 27 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 7 บ้านกลางเขา ต.ดอนขวาง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ว่า มีพระรูปหนึ่งขับรถเก๋ง ไม่ทราบยี่ห้อ พุ่งชนเข้าที่ห้องน้ำที่บ้านของตัวเองจนพังเสียหาย จากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุทัยธานี ให้มาตรวจสอบ จึงทราบชื่อคือ พระสมภาร เป็นพระลูกวัดหนองพังค่า ต.หนองพังค่า อ.เมือง จ.อุทัยธานี ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยได้ช่วยกันนำตัวออกจากรถยนต์คันดังกล่าว พระสงฆ์รูปนี้มีกลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั้งตัว และพูดจาไม่รู้เรื่องด้วยความเมา
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการวัดระดับแอลกอฮอล์แล้วพบว่า พระสมภาร นั้นดื่มสุราจริง ก่อนพยายามสอบถามเรื่องราวจึงทราบว่า พระสมภาร นั้นได้ขับรถออกจากวัดหนองพังค่า เพื่อมาชักชวนพระอีกรูปหนึ่งซึ่งอยู่คนละวัด คือพระสุเทพ อายุ 65 ปี เป็นพระวัดกลางเขา ต.ดอนขวาง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ก่อนชักชวนกันไปดื่มยาลมผสมกับเหล้าขาว และหลังจากดื่มเสร็จก็จะขับรถเพื่อกลับวัดของตนเอง แต่ด้วยทางที่เกิดเหตุมีโค้งเยอะ จึงพลาดพุ่งเข้าชนห้องน้ำของชาวบ้าน จนรั้วบ้านพังและทะลุเข้าไปถึงห้องน้ำจนพังเสียหาย
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้พาตัว พระสมภาร เดินทางกลับมาที่วัดกลางเขา เพื่อขอพบตัวและพูดคุยสอบถามกับทาง พระสุเทพ ว่า ได้ร่วมดื่มสุราตามที่ทางพระสมภาร ได้กล่าวอ้างหรือไม่ ซึ่งทาง พระสุเทพ นั้นยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป่าเพื่อวัดระดับแอลกอฮอล์ ซึ่งพบว่าได้ดื่มสุราจริง
โดยทาง พระสุเทพ ได้เปิดเผยว่า ทางพระพระสมภาร นั้น ขับรถมาที่วัดแล้วก็ชักชวนกันดื่มยาลมผสมกับสุราขาว โดยอ้างว่าเป็นยา ซึ่งนั่งดื่มกันมาตั้งแต่หัวค่ำแล้ว โดยใส่ขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งตั้งอยู่หน้ากุฎิของพระสุเทพ อยู่ประมาณ 7-8 ขวด หลังจากนั้นทาง พระพระสมภาร ก็กลับไปวัด แต่ก็ยังไม่ถึงวัดไปพุ่งชนห้องน้ำชาวบ้านเสียก่อน ซึ่งทาง พระสุเทพ ยังคงยืนยันว่า ที่ดื่มนั้นเป็นยา แต่ก็ต้องใช้สุราขาวเป็นส่วนผสมลงไปด้วย ซึ่งตนเองนั้นฉันเพื่อรักษาโรคของตัวเอง โดยอ้างว่า เป็นโรควิตกกังวล หรือเป็นโรคจิตเวชที่รักษาอยู่
ซึ่งชาวบ้าน และผู้เสียหาย ที่มาดูเหตุการณ์นั้นต่างก็ถามว่า ทำไมทำให้วัดเสื่อมชื่อเสียงแบบนี้ และยังชักชวนพระวัดอื่นมาดื่มด้วย ซึ่งทางพระพระสุเทพ บอกว่า ไม่เคยชวน พระสมภาร มาดื่มเลย แต่ทาง พระสมภาร นั้นขับรถมาหาก็เลยชวนดื่ม แต่ชาวบ้านนั้นไม่เชื่อ และบอกว่าเห็นหลายครั้ง แต่ไม่อยากพูด เพราะเกรงว่าวัดนั้นจะเสื่อมเสีย ก่อนที่ทาง พระสุเทพ นั้นจะโวยวายและต่อว่าทางญาติโยมและผู้เสียหายจนเกือบจะมีเรื่องกัน จนตำรวจต้องเข้าไปห้าม ก่อนทนแรงกดดันของชาวบ้านไม่ไหว จึงได้ทำการสึกออกจากการเป็นพระ โดยมีทาง พระครูภาวนาสันติธรรม เจ้าอาวาสวัดหลังเขา ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ให้ เป็นผู้ทำพิธีสึกพระ ให้กับทาง พระสุเทพฯ โดยในทางกฏหมายนั้นพระสุเทพ จะไม่ถูกดำเนินคดีใด ๆ เพราะผิดเพียงแค่วินัยทางสงฆ์เท่านั้น
ส่วนทางด้าน พระสมภาร พระลูกวัดหนองพังค่า ที่ขับรถนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พาตัวไปทำการสึกด้วยเช่นกัน จากนั้นได้ดำเนินคดีในข้อหา เมาแล้วขับ และทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ก่อนนำตัวไปดำเนินคดี โดยทาง นายธนวัตร ผู้เสียหายนั้น ขอให้ซ่อมแซมห้องน้ำให้ในราคา 20,000 บาท
ทั้งนี้ นายธนวัฒน์ คาดว่า เงินค่าซ่อมห้องน้ำที่เรียกร้องไปจำนวน 20,000 บาทนั้น ไม่น่าจะได้รับ เพราะดูแล้วทางคนขับน่าจะไม่มีเงินให้ น่าจะต้องซ่อมแซมกันเอง ซึ่งเป็นไปได้ก็อยากขอให้ทาง อบต.ในพื้นที่ช่วยนำไฟฟ้ามาติดตั้งให้ตามจุดทางโค้งต่าง ๆ ในหมู่บ้าน เพราะตอนนี้ในหมู่บ้านไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างข้างทางเลย ทำให้ตอนกลางคืนค่อนข้างอันตรายโดยเฉพาะช่วงทางโค้งแบบนี้