เช้านี้ที่หมอชิต - ยังอยู่กับ PM2.5 เมื่อครู่ฉายให้เห็น 1 ต้นตอปัญหาที่แม้มีกฎห้ามเผา แต่ก็ถูกเมิน แถมบางพื้นที่มีมาตรการแก้ไขก็เริ่มมีเสียงวิจารณ์โดยเฉพาะการแก้ PM2.5 ในกรุงเทพมหานคร ที่มีทั้งให้ขึ้นรถเมล์ ขึ้นรถไฟฟ้าฟรี ว่า เกาไม่ถูกที่คัน
ฝุ่น หรือ หมอกที่ลงปกคลุมหนาแน่นในพื้นที่อำเภอคูคต จังหวัดปทุมธานี และอีกในหลาย ๆ จุด เช้าวานนี้ (26 ม.ค.) ก็ทำให้สายตาฝ้าฟางกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะคนขับรถ หรือกัปตันขับเครื่องบิน ก็เจอปัญหาทัศนวิสัยมองไม่ชัด ถึงขั้นการนำเครื่องบินลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแบบปกติไม่ได้ ต้องใช้เทคนิคพิเศษนำเครื่องลงแตะพื้นผิวรันเวย์
ขณะที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก โพสต์คลิปขณะขับรถบนถนนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ช่วงเขตประเวศ ก่อนถึงสนามบินสุวรรณภูมิ มีฝุ่นปกคลุมหนาแน่น
ส่วน เพจ แพทย์หญิงศศิ ใหญ่สว่าง จักษุแพทย์ ก็โพสต์คลิปดวงตาของคนไข้ที่ได้รับผลกระทบจาก PM2.5 จนทำให้ตาแห้ง เยื่อบุตาอักเสบ ภูมิแพ้ขึ้นตาจนมีสีแดง รวมทั้งหมอยังโพสต์ด้วยว่า คนไข้ที่ต้องทำเลสิกถึงขึ้นทำไม่ได้เลยแม้แต่คนเดียว วานนี้ เพราะตาจะถลอกเป็นแผล ไม่ผ่านเกณฑ์ความปลอดภัย
การแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 หลังรัฐบาลเคาะมาตรการทั้งขึ้นรถเมล์ และรถไฟฟ้าฟรีทุกเส้นทาง ตั้งแต่ 25-31 มกราคมนี้ เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ผลพบว่า กระแสรถไฟฟ้าตอบรับดีมาก ออกมาใช้บริการกันพรึ่บ หนาแน่นทุกเส้นทาง รวมกว่า 1.6 ล้านคน เที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 45.29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของสัปดาห์ที่ผ่านมา
จนเกิดกระแสในโซเชียล แสดงความคิดเห็นกันรัว ๆ แต่ไปทางดรามา มองการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด เปรียบเหมือนคันที่หลัง แต่เกาไม่ถูกที่ เพราะเห็นว่ากลายเป็นกระตุ้นท่องเที่ยวแทน เพราะรถไฟแน่นทุกขบวน
อย่าง นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ก็มองว่า นโยบายนี้ เป็นนโยบายที่ดี แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า การนำเงิน 140 ล้านบาท หรือวันละ 20 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่มาจากภาษีของประชาชน จ่ายให้เอกชน หรือบริษัทรถไฟฟ้า เต็มจำนวน ทั้ง ๆ ที่จำนวนผู้โดยสารลดลงจาก WFH โรงเรียนปิดหนีฝุ่น จึงอดตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่า จริง ๆ แล้ว นโยบายนี้ตกลงแล้ว ประชาชนหรือเอกชนที่ได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ พร้อมบอกด้วยว่า อย่าลืม มีอีกหลายจังหวัดที่มีปัญหา PM2.5 ไม่น้อยกว่ากรุงเทพมหานครเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้นตอนแรกมีข้อมูลว่ารัฐบาลจะใช้วิธี "ขอความร่วมมือ" เอกชนให้ประชาชนได้ใช้บริการฟรี ที่ไหนได้ กลายเป็นใช้งบกลางจำนวน 140 ล้านบาท หรือวันละ 20 ล้านบาท ซึ่งคือภาษีของคนไทยทั้งประเทศ
ในขณะที่หลายหน่วยงาน โรงเรียน บริษัท กำลังจะประกาศให้ WFH ลดการเดินทาง ลดการออกจากบ้าน จำนวนผู้โดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า ก็จะลดลง แต่รัฐบาลกำลังจะจ่ายให้เอกชนมีรายได้เท่าเดิม? การเอาภาษีจากคนไทยทั้งประเทศมาแก้ปัญหาในกรุงเทพมหานคร ผู้ที่ได้ประโยชน์คือประชาชนหรือเอกชนกันแน่?
หรือแม้แต่ อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ โพสต์ชี้วันนี้ (27 ม.ค.) อากาศดี ค่าฝุ่นสีเขียว สาเหตุจากมวลอากาศเย็นแผ่ไทย ทำลมแรง ไม่เกี่ยวมาตรการรถเมล์-รถไฟฟ้าฟรี
มวลอากาศเย็นจากประเทศจีน แผ่ลงมา ทำให้เกิดกระแสลมแรง และสภาพฝุ่น PM2.5 ในภาคอีสานดีขึ้นมาก และน่าจะทำให้กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีสภาพอากาศดี
หรือบางคนก็มองมุมบวก บอกทดลองแค่ 7 วัน แต่ปัญหาฝุ่นแก้ไขได้ ให้เริ่มที่ตัวเองก่อน เพราะรัฐบาลมีเครื่องมือ ความสามารถจำกัด จะได้ไม่คาดหวังรัฐบาลจะทำได้ทุกเรื่อง
บางคนบอก รัฐอยากให้คนทิ้งรถส่วนตัวมาใช้บริการ แต่คนมีรถ เขาก็อยากสบาย คงไม่มาใช้ ถ้าเห็นคนเยอะแบบนี้ รถก็ติดเหมือนเดิม
เมื่อคอมเมนต์กัน 2 มุมแบบนี้ ทีมข่าว 7HD ไปสอบถามประชาชนยังไหวอยู่ไหมเมื่อเจอฝุ่นกันแบบนี้ ไปเจอทั้งคนที่เพิ่งกลับมาเที่ยวประเทศไทย หลังไปอยู่สิงคโปร์ และคนอยู่ประจำ จะคิดอย่างไร
เช้าวันนี้ กรุงเทพมหานครเองก็ไม่ได้ WFH นักเรียนก็เปิดเรียนปกติ และวันนี้คนกรุงได้สัมผัสหมอกด้วย จากมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากจีน แผ่ปกคลุมไทยตอนบน ซึ่ง ผอ.กองพยากรณ์อากาศ เผยว่า เมื่อเช้า (26 ม.ค.) ความชื้นในอากาศสูงสุด 90% ทำให้เกิดหมอกลงจัดในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมไปถึงจังหวัดในภาคกลาง บรรยากาศขมุกขมัวในวันนี้ จึงเป็นการผสมกันระหว่างหมอกและฝุ่นนั่นเอง แต่สถานการณ์จะคลายตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นแน่นอน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สัญลักษณ์อากาศเริ่มเป็นสีเหลืองและสีเขียว
ขอบคุณภาพจาก : Facebook Sumetha Promhalit, พญ.ศศิ ใหญ่สว่าง จักษุแพทย์