กองทัพเรือส่งเรือ-เครื่องบิน ไล่จับเรือประมงเวียดนามรุกน่านน้ำไทยคราดปลิงทะเล

วันนี้ (27 ม.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ร.ท.นเรศ วงศ์ตระกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 และ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ทางทะเล ภาค 2 ไปตรวจสอบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ที่ถูกควบคุมมาจอดอยู่ที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา จ.สงขลา โดยเรือลำดังกล่าวถูกจับกุมได้ช่วงเย็น เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา

พล.ร.ท.นเรศ เปิดเผยว่า กลุ่มเรือประมงไทยที่ทำการประมงอยู่ในอ่าวไทย ได้แจ้งมายังศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2 และศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 2 ว่าพบเรือประมงต่างชาติกำลังทำการประมงอยู่ในน่านน้ำอ่าวไทย จึงสั่งการให้เรือตรวจการณ์ หรือ เรือ ต.995 พร้อมเครื่องบินดลาดตระเวน แบบที่ 1 หรือ ดอร์เนียร์ 228 ไปทำการค้นหาพิสูจน์ทราบ กระทั่งพบเรือประมงลำดังกล่าว กำลังทำการประมง ห่างจากชายฝั่ง อ.ระโนด จ.สงขลา ประมาณ 69 กิโลเมตร จึงเข้าสกัดและควบคุมไต้ก๋งเรือและลูกเรือ รวมทั้งหมด 5 คน ก่อนนำเรือเข้าเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา

จากสอบสวนทราบว่า เรือประมงลำดังกล่าว เป็นเรือทำการประมงคราดปลิงทะเล และมีลูกเรือ 3 ใน 5 คน เคยถูกจับกุมแล้ว แต่เมื่อพ้นโทษจากคุกไทย ก็กลับไปประกอบอาชีพเดิมอีก ซึ่งหลังสอบสวน ก็นำตังทั้ง 5 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ พล.ร.ท.นเรศ ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 2 และเรือตรวจการณ์ เรือหลวง ที่ลาดตระเวนตรวจตราอยู่ในอ่าวไทย ได้เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น เพื่อสกัดกันเรือประมงต่างชาติ โดยเฉพาะเรือประมงเวียดนาม ที่รุกล้ำเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย เนื่องจากคราดที่ใช้จับปลิงทะเลเป็นเครื่องมือทำการประมงที่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ พื้นผิวดินทะเลอย่างรุนแรง โดยเฉพะสัตว์น้ำวัยอ่อน เช่น หมึก ที่วางไข่ใต้ผิวดิน ส่วนสาเหตุที่เรือประมงเวียดนามลักลอบเข้ามาคราดปลิงทะเลในน่านน้ำไทย และจับกุมได้บ่อยครั้งนั้น เนื่องจากในอ่าวไทยมีปลิงทะเลที่เป็นที่ต้องการของตลาดเวียดนาม ที่ไทยไม่มีความนิยม และตลาดเวียดนามก็ ต้องการนำไปทำยาบำรุงร่างกาย

อย่างไรก็ตาม สำหรับการจับกุมเรือประมงต่างชาติที่ลักลอบเข้ามาทำการประมงในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 1 เดือน โดยก่อนหน้านี้ ครั้งแรก วันที่ 3 ม.ค. 68 ครั้งที่ 2 วันที่ 13 ม.ค. 68 และครั้งนี้วันที่ 26 ม.ค. 68 โดยยึดเรือประมงของกลางได้ 3 ลำ ผู้ต้องหารวม 13 คน และตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 ถึงปัจจุบัน มีเรือประมงต่างชาติที่ถูกจับกุมแล้ว รวม 16 ลำ ผู้ต้องหา รวม 80 คน ทั้งนี้ เรือประมงที่ถูกจับกุมแต่ละลำ มีมูลค่าเรือกว่า 1-2 ล้านบาท