เช้านี้ที่หมอชิต - มีทั้งรอยยิ้มและน้ำตาเลยสำหรับเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ที่เป้าหมาย คือ กลุ่มผู้สูงอายุ และพอได้เงินแล้วหลายคนก็นำไปใช้กับสิ่งจำเป็นในชีวิตกันเลย ส่วนคนที่ยังไม่ได้เงิน มีจุดสังเกตบอก แต่ที่แน่ ๆ เฟส 3 ก็มีระบุออกมาแล้วด้วย
ผู้สูงอายุ แห่รับเงิน 10,000 บาท
ที่ธนาคาร และหน้าตู้เอทีเอ็ม ก็กลับมาคึกคักกันอีกครั้ง เมื่อผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ซึ่งลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ ราว 3 ล้านคน แห่ไปกดเงินที่ได้รับโอนมา 10,000 บาท ตั้งแต่เช้า บางคนไปรอตั้งแต่ 02.00 น.
ส่วนคุณตา-คุณยายในจังหวัดบุรีรัมย์ คู่นี้ ก็โชว์ใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้า ซึ่งติดค้างนาน 2 เดือน จนต้องอยู่บ้านที่มืดสนิทกับหลานอีก 3 คน เพราะไม่มีเงินไปจ่ายค่าไฟที่ค้างไว้ ประกอบกับรายได้ก็มีเพียงเงินคนแก่ เดือนละ 700 บาท และเงินรายได้จากเผาถ่านขายสัปดาห์ละ 400-500 บาท ซึ่งทั้งหมดก็ต้องกินใช้กันถึง 5 ชีวิต
ผู้สูงอายุ คอตกชวดเงิน 10,000 บาท
จังหวัดอุทัยธานี ผู้สูงอายุหลายคนรอเก้อ เงินหมื่นไม่เข้าบัญชี บางคนปักหลักรอพนักงานธนาคารชี้แจงหลังข้อมูลถูกปฏิเสธ
เช่นเดียวกับ ผู้สูงอายุในจังหวัดนครนายก ที่มีหลายคนคอตกกลับบ้าน เงินไม่เข้าตามนัด บางคนถึงกับงง เพราะทำตามขั้นตอนที่รัฐบาลกำหนดทุกอย่าง ทั้งลงทะเบียน ยืนยันตัวตน ผูกพร้อมเพย์ แต่เงินก็ไม่เข้า มาเก้อ แถมยังต้องหาเงินไปคืนค่าน้ำมันที่เติมใส่รถจักรยานยนต์ขี่มาธนาคารด้วย
ก็เป็นมุมของคนผิดหวัง ที่พอฟังแล้วก็เห็นใจผู้สูงอายุทุกท่านที่พลาดหวัง แต่จริง ๆ อาจมีหลายปัจจัย
แต่ถ้าเป็นผู้ที่มีรายชื่อผ่านสิทธิ แต่ยังไม่ได้รับเงินเมื่อวานนี้ ที่เป็นวันแรก ก็อยากให้รีบตรวจสอบ โดยเฉพาะการผูกบัญชีพร้อมเพย์ เพราะรัฐบาลจะโอนเงินรอบเก็บตกอีก 3 ครั้ง คือ ทุก ๆ วันที่ 28 ของเดือน
นายกฯ กดปุ่มโอนเงิน 10,000 บาท เฟส 2
นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เป็นประธานกดปุ่ม Kick Off โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปด้วย ซึ่งจังหวะที่จะกดปุ่มก็เป็นที่ถูกจับตา เพราะระหว่างที่กดเงินปรากฏระบบไปไวกว่ามือนายกฯ แล้ว
หลังกดปุ่มเปิดตัวโครงการฯ นายกฯ ก็วิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์คุยกับผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิเงิน 10,000 บาท ซึ่งผู้ได้รับสิทธิ บอกว่า จะนำเงินไปต่อยอดทำมาหากิน พร้อมขอบคุณรัฐบาลที่ดูแลประชาชนอย่างดี
ย้ำแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 3 เม.ย.-มิ.ย.นี้
ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยคลัง ก็ย้ำโครงการเงิน 10,000 บาท เฟสต่อไป ได้ใช้แน่ในช่วงไตรมาส 2 ของปี โดยขณะนี้เตรียมงบประมาณไว้แล้วกว่า 160,000 ล้านบาท พร้อมยืนยัน คนไม่มีสมาร์ตโฟน ไม่ต้องกังวล เพราะสามารถติดต่อธนาคารเพื่อลงทะเบียนได้