ไมทราไจนีนในใบกระท่อม กรมวิทย์ฯยกระดับมาตรฐานตรวจ

ไมทราไจนีนในใบกระท่อม กรมวิทย์ฯยกระดับมาตรฐานตรวจ

View icon 280
วันที่ 28 ม.ค. 2568 | 14.23 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กรมวิทย์ฯ ยกระดับมาตรฐานตรวจวิเคราะห์ ไมทราไจนีน ในใบกระท่อม เพิ่มโอกาสพืชกระท่อมไทยสู่ตลาดโลก เพิ่มมูลค่าให้พืชสมุนไพร

วันนี้ (28 ม.ค.68) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวความร่วมมือกับภาคเอกชนในการยกระดับมาตรฐานการตรวจวิเคราะห์สารไมทราไจนีน ในใบกระท่อม โดย นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า การยกระดับมาตรฐานการตรวจวิเคราะห์สารไมทราไจนีนในใบกระท่อม ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาคุณภาพผลผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดส่งออก และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไทย

ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายหลักในการสร้างมาตรฐานการตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารไมทราไจนีนให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยใช้ห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล สำหรับห้องปฏิบัติการทดสอบและสอบเทียบ เพื่อรับประกันความถูกต้อง แม่นยำ และความน่าเชื่อถือของผลการตรวจวิเคราะห์          

ที่ผ่านมา กรมวิทย์ฯ ศึกษาวิจัยและตรวจวิเคราะห์ไมทราไจนีน ในใบกระท่อมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดทำมาตรฐานวัตถุดิบใบพืชกระท่อมของไทย เผยแพร่ในตำรามาตรฐานยาสมุนไพรไทย ตั้งแต่ปี 2566 รวมทั้งดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างกรมวิทย์ฯ และสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เพื่อจัดทำสารมาตรฐานไมทราไจนีนความบริสุทธิ์สูง (มากกว่า 99%) และจัดทำเป็นสารละลายมาตรฐานความเข้มข้น 1.0501 mg/ml เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน มีราคาถูกกว่าสารมาตรฐานจากต่างประเทศ 3 เท่า สามารถลดการนำเข้าได้ไม่น้อยกว่า 7 ล้านบาทต่อรุ่นการผลิต เริ่มเปิดให้บริการเดือน ม.ค. 2568 

นอกจากนี้ ยังเปิดให้บริการตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารไมทราไจนีน ในวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์จากใบกระท่อม ประกอบด้วย การตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารไมทราไจนีน การตรวจวิเคราะห์ปริมาณความชื้น การตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ การตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนโลหะหนัก ได้แก่ แคดเมียม ตะกั่ว สารหนู และปรอท การตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนยาฆ่าแมลง และการตรวจวิเคราะห์สารพิษจากเชื้อรา

ด้าน นายพรชัย ปัทมินทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดร.กระท่อม ไบโออ์ จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ จะเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้ปลูกกระท่อม และผู้ประกอบการที่จะได้รับการรับรองคุณภาพผลผลิต สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดส่งออก เพิ่มมูลค่าการส่งออกพืชสมุนไพร  และสร้างความยั่งยืนให้แก่ภาคเกษตรกรรมและธุรกิจเพื่อสุขภาพของประเทศไทย