รวบสาวเจ้าของบัญชี เอื้อมิจฉาชีพ สร้างเรื่องส่งของจากต่างประเทศ หลอกเหยื่อโอนเงินหลักแสน อ้างไม่รู้ว่าเป็นเงินเทา
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุม นางสาวศิริรัตน์ฯ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาพระโขนง ที่ 352/2565 ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง และโดยทุจริต หรือโดยหลอกหลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูล คอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 19/2566 ลงวันที่ 12 มกราคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น”
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2562 ได้มีผู้เสียหายคนเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีเฟซบุ๊กจากคนรู้จักของ ผู้เสียหายแจ้งว่า ตนเองได้รับเงินกินเปล่าจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือแก่บุคคลที่ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศ
จากนั้นได้แจ้งว่าหากผู้เสียหายต้องการเงินดังกล่าวเช่นเดียวกัน ให้ติดต่อกับบุคคลซึ่งเป็นผู้ที่สามารถดำเนินการเรื่องเบิกเงินได้ จากนั้นผู้เสียหายจึงได้ติดต่อไปยังทางข้อความและพูดคุยกับคนดำเนินการเรื่องเบิกเงิน โดยมีการอ้างว่าจะทำการตรวจสอบประวัติของผู้เสียหายก่อน จากนั้นจึงจะสามารถทำเรื่องขอรับเงินช่วยเหลือได้
นอกจากนี้ยังอ้างว่าจะต้องเสียค่าประกันเป็นเงินประมาณเกือบ 4 แสนบาท ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหา ต่อมาภายหลังอีก 4 วัน ได้มีการแจ้งอีกว่าต้องเสียค่าศุลกากร เป็นเงินจำนวนเกือบ 6 พันดอลล่าสหรัฐฯ ซึ่งผู้เสียหายรู้สึกแปลกใจจึงได้ทำการโทรศัพท์ไปสอบถามคนรู้จักที่อ้างว่าได้รับเงิน ปรากฎว่าทางคนรู้จักไม่ทราบเรื่องดังกล่าว จึงเชื่อว่าถูกหลอก
ต่อมาในช่วงเดือนกันยายน พ.ศ. 2562 ได้มีผู้เสียหายคนที่สองเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เช่นเดียวกัน โดยเเจ้งว่าได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์บัญชีหนึ่งขอเป็นเพื่อนกับผู้เสียหาย
จากการพูดคุยกันทำให้ทราบว่า เป็นคนไทย มีภูมิลำเนาอยู่ จังหวัดอุดรธานี มีสามีเป็นชาวต่างชาติ และมีปัญหาชีวิตคู่ อยากจะกลับเมืองไทย โดยต้องการจะส่งของมีค่ากลับมาประเทศไทย แต่ไม่มีคนรู้จักที่ประเทศไทย
จากนั้นจึงขอส่งของมาฝากไว้กับผู้เสียหาย ผู้เสียหายเห็นใจจึงได้ตกลงช่วยเหลือ ซึ่งเมื่อผู้เสียหายให้ชื่อที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์กับผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าวไป
ต่อมาได้มีผู้อ้างว่าเป็นพนักงานบริษัทฯ ขนส่งพัสดุ แจ้งว่ามีพัสดุมาและจะต้องเสียค่าบริการในการจัดส่ง โดยอ้างว่าพัสดุติดปัญหาเรื่องภาษี เงินค่าต่อประกัน ค่าปรับตามความล่าช้า ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินจากบัญชีธนาคารของตนเองไปยังบัญชีของผู้ต้องหา รวมเป็นเงินจำนวนประมาณเกือบ 3 แสนบาท
ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง จึงได้ดำเนินการสืบสวนจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงทำการสืบสวนติดตามจับกุม โดยสามารถจับกุมได้ที่ ซอยเธียรสวน 1 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และนำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.พระโขนง เพื่อดำเนินคดีต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่าตนเองได้ใช้บัญชีธนาคารของตนเองรับโอนเงินจากผู้อื่นจริง โดยเป็นการรับโอนเงินจากหญิงต่างประเทศ ซึ่งจะต้องโอนต่อไปยังบัญชีปลายทาง โดยผู้ต้องหาจะได้รับผลตอบเเทนจากการหักเปอร์เซ็นต์ในการรับโอนเงิน ซึ่งผู้ต้องหายืนยันว่าไม่ทราบว่าเงินดังกล่าวเป็นการหลอกลวงจากผู้อื่น