เช้านี้ที่หมอชิต - คอการเมืองรู้ดี ค่ำคืนที่จะถึงนี้จะเป็นคืนหมาหอน ก่อนการเลือกตั้ง อบจ. ในวันพรุ่งนี้ หลายจังหวัดการแข่งขันสูง มีทั้งสู้เพื่อรักษาแชมป์ และสู้เพื่อล้มแชมป์
2 พรรคการเมืองใหญ่จาก 2 ขั้ว ระดมแกนนำและทีมหาเสียงลงพื้นที่ถี่ยิบ โดยพรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครนายก อบจ. ในนามพรรค 14 คน และอีก 2 คนลงในนามสมาชิกพรรค ส่วนพรรคประชาชน ส่งผู้สมัครนายก อบจ. 17 คน
มี 4 จังหวัด ที่พรรคแดงและพรรคส้ม ชนกันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน คือ เชียงใหม่, ลำพูน, มุกดาหาร, ปราจีนบุรี โดย 3 จังหวัดแรก เพื่อไทยเป็นเจ้าของเก้าอี้เดิม
เมื่อประมวลจากทุกปัจจัย พรรคเพื่อไทยเป็นต่อทุกสนามเลือกตั้ง ปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อตัวผู้สมัคร คือ ผู้ช่วยหาเสียงอย่าง นายทักษิณ ชินวัตร ที่มีผลต่อการตัดสินใจของคนในพื้นที่ และไม่ใช่หวังผลเพียงแค่ชัยชนะในท้องถิ่นเท่านั้น นายทักษิณ พูดทุกเวทีว่า ตนเองกลับมาแล้ว ขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยในสนามระดับชาติให้ได้ สส. 200 ที่นั่ง
ส่วนพรรคประชาชน แม้ระดมแกนนำไปช่วยผู้สมัครหาเสียงทั่วประเทศ ชูนโยบายการเมืองแบบใหม่ ก็ไม่รู้ว่าตอบโจทย์คนท้องถิ่นหรือไม่ เพราะการเลือกตั้ง นายก อบจ. ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้เลยสักจังหวัด จึงชัดเจนว่าพรรคประชาชนไม่ใช่คู่แข่งตัวจริงของ เพื่อไทย
ส่วน ภูมิใจไทย แม้ประกาศไม่ส่งคนลงสมัครในนามพรรค แถมกำชับลูกพรรคห้ามยุ่งเกี่ยวกับเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ผู้สมัครหลายคนก็เป็นคนคุ้นเคย จนถูกตราหน้าว่าเป็นพรรคอีแอบ ถ้ามองลึกเข้าไปจะพบว่ามีกลเกมการเมืองแอบแฝง เพราะ ภูมิใจไทย คุมกลไกท้องถิ่นอยู่ ไม่ต่างจากตอนเลือก สว. ที่ว่ากันว่า สว.สีน้ำเงินกวาดไปกว่า 150 ที่นั่ง
การเลือกตั้ง อบจ. รอบนี้เหลือเพียง 47 จังหวัดที่ประชาชนจะได้เข้าคูหา เนื่องจากมี 29 จังหวัดชิงลาออกหรือพ้นตำแหน่งก่อนครบวาระ และเลือกตั้งไปก่อนหน้านี้ แต่สำหรับสมาชิก อบจ. ยังเลือกกันครบ 76 จังหวัด พร้อมกัน 1 กุมภาพันธ์