เครื่องบินโดยสารชนเฮลิคอปเตอร์กลางอากาศ ไร้ผู้รอดชีวิต "ทรัมป์" โจมตีนโยบายการจ้างงานตามความหลากหลาย ทำให้ได้คนที่มีคุณสมบัติและวุฒิภาวะไม่ดีพอเข้ามาทำงาน
(31 ม.ค.68) จากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก (Black Hawk) ของกองทัพสหรัฐฯ พุ่งชนกลางอากาศ กับเครื่องบินโดยสารของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส (American Airlines)ขณะนำเครื่องบินลงจอด เครื่องเฉี่ยวชนกันจนตกลงไปในแม่น้ำโพโทแมก
เมื่อคืนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ยุติปฏิบัติการค้นหาชั่วคราว เนื่องจากสภาพที่เป็นอันตรายต่อการปฏิบัติงานในน้ำ ก่อนจะกลับมาเริ่มการค้นหาอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่กู้กล่องดำทั้ง 2 กล่อง ของเครื่องบินโดยสารกลับขึ้นมาได้แล้ว พร้อมพบร่างผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 30 คน และเชื่อว่าผู้โดยสารและลูกเรือ รวมทั้งทหาร รวม 67 คน ไม่มีผู้ใดรอดชีวิต
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดการชนกันครั้งนี้ยังไม่แน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินและบรรณาธิการของ 42kft.com (เว็บไซต์ข่าวและจัดอันดับสายการบิน) ระบุว่า จากการวิเคราะห์พบว่าเครื่องบินโดยสารปฏิบัติตามคำแนะนำของหอบังคับการบิน ส่วนเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กได้บินขึ้นในบริเวณใกล้เคียง และมีการเปลี่ยนเส้นทางบินถึง 6 ครั้ง ขณะกำลังทำการไต่ระดับความสูง และคาดว่าระบบติดตาม ซึ่งเป็นระบบสำคัญ ก็ไม่ได้ถูกเปิดใช้งาน
ด้านสำนักข่าว CNN ของสหรัฐฯ รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า พนักงานหอบังคับการบินไม่เพียงพอ โดยขณะเกิดเหตุมีผู้ปฏิบัติงานเพียง 1 คน เท่านั้น ซึ่งปกติต้องเจ้าหน้าที่ทำงาน 2 คน
ขณะที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาวิจารณ์ว่า เหตุใด หอบังคับการบินจึงไม่บอกเฮลิคอปเตอร์ไปเลยว่าต้องทำอย่างไร แทนที่จะถามว่าเฮลิคอปเตอร์ว่าเห็นเครื่องบินหรือไม่
นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวโทษว่าเป็นผลมาจากความผิดพลาดของนโยบายการจ้างงานตามความหลากหลายของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ทำให้ได้คนที่มีคุณสมบัติและวุฒิภาวะไม่ดีพอเข้ามาทำงาน