บก.น.3 ขยายผลจับ 2 ผัวเมีย เฝ้าโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ ให้นายทุนจีน ยึดกว่า 200 กล่อง คาด 1 กล่อง มีประมาณ 1 พันชิ้น ส่งขายทั่วกรุงเทพมหานคร
วันที่ 31 ม.ค. 2568 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สุทธิพร สุกก่ำ รรท.ผกก.สส.บก.น.3 พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.ท.ธนาวินท์ กาญจนวิภาส รอง ผกก.สส.บก.น.3 พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รอง ผกก.สส.สน.มีนบุรี พ.ต.ท.สุริยา กุญแจกล สว.กก.สส.บก.น.3 พ.ต.ท.ประกอบ สอนจินดา สว.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน บก.น.3. ร่วมกันจับกุม นายชยทัต อายุ 28 ปี และนางพวงแก้ว อายุ 27 ปี พร้อมของกลางบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของบุหรี่ไฟฟ้า นำเข้าจากประเทศจีนโดยไม่ผ่านกรมศุลการกร จำนวน ประมาณ 150-200 กล่อง คาดว่า 1 กล่องอาจมีเกือบ 1,000 ชิ้น จับกุมได้ภายในบ้านพักหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ แจ้งข้อหา ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 246 ใช้สำหรับกรณีของผู้ที่ ช่วยซ่อนเร้น ซื้อ รับไว้ หรือมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ใน ครอบครอง ทั้งที่รู้อยู่ว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นของที่ห้ามนำเข้ามาประเทศไทย ต้องถือว่ามีความผิดเช่นกัน
สืบเนืองจากชุดสืบสวนนครบาล 3 และชุดสืบสวน สน.มีนบุรี ติดตามการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ในพื้นที่ สน.ร่มเกล้า ในพื้นที่ บก.น.3 จนกระทั่งสืบทราบว่า มีการนำบุหรี่ไฟฟ้ามาจากพื้นที่ชานเมืองจ.สมุทรปราการ จึงได้ขยายผลการตรวจสอบจนกระทั่ง พบผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เป็น 2 สามีภรรยา รับผิดชอบเฝ้าของอยู่บ้านพักหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ จึงได้แสดงตัวเพื่อทำการจับกุมดังกล่าว
สอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า ทั้ง 2 คน ได้ร่วมกันครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนดังกล่าวจริง โดยรับจ้างจากนายต้า คนไทย ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง เป็นคนประสานงานกับชาวจีน โดยให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ทำหน้าที่ในการเฝ้าดูแลบุหรี่ไฟฟ้า ส่งขายทั่วทั้งกรุงเทพมหานคร และนำส่งแก่ลูกค้าตามที่นายต้าสั่ง ตำรวจจะได้ทำการขยายผลหาผู้ร่วมกระทำความผิดอีกครั้ง เบื้องต้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง ดำเนินคดีตามกฎหมาย