ล่าช้า ? 4 เดือน ผลสอบอาหารกลางวัน รร.ราชประชานุเคราะห์ 47 เพชรบุรี ยังไม่สะเด็ดน้ำ “รองเลขาธิการ กพฐ.” เผยเตรียมฟันวินัย ผอ.รร. บริหารงานบกพร่อง-ป.ป.ช.เล็งรับลูก ตรวจสอบจัดซื้อจัดจ้างเพิ่ม
กรณีเพจเฟซบุ๊กปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ออกมาแฉโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47 เพชรบุรี เมื่อปลายเดือนกันยายน 2567 ว่าปรุงอาหารไม่ได้มาตรฐาน โดยเป็นภาพไส้กรอกติดพลาสติก และมีปริมาณน้อย แตกต่างกับภาพที่โรงเรียนส่งรายงานในกลุ่มสภานักเรียนและมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ จนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ลงพื้นที่ตรวจสอบและแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง
ทีมข่าว 7HD เกาะติดมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ผ่านมา 4 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีผลการสอบข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการ เรื่องนี้ “นายธีร์ ภวังคนันท์” รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า การสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น พบว่า แม่ครัวทำอาหารบกพร่องจริง
ส่วนผู้อำนวยการโรงเรียนฯ บกพร่องในแง่การบริหารงาน ทั้งนี้ เข้าใจเจตนาดีว่า มีความพยายามที่จะดูแลอย่างดี แต่การบริหารงานโรงเรียนราชประชานุเคราะห์มีความซับซ้อนสูง จึงให้ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ เข้ารับการอบรมทักษะการบริหารเพิ่มเติม
เมื่อถามถึงกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนถูกกล่าวหาว่า นำอาหารไปให้สามีกิน รองเลขาธิการ กพฐ. ระบุ เป็นความจริง แต่เบื้องต้นทราบว่า สามีรับเชิญเป็นวิทยากรพิเศษ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องปกติที่จะได้กินอาหาร แต่ไม่ได้รับสิทธิพิเศษอย่างอื่น เรื่องนี้อาจไม่เหมาะสม จึงได้ว่ากล่าวตักเตือน
“เรื่องที่น่ากังวล คือ ความบกพร่อง ต้องมีผู้รับผิดชอบตามเหตุผลที่เราตรวจสอบเจอ” นายธีร์ กล่าว และว่า โดยหลักการ ต้องมีโทษทางวินัย ซึ่งต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง ยืนยัน สพฐ.ปฏิบัติอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ไม่เข้าข้างใคร เพราะเรามองประโยชน์สูงสุดของเด็ก และต้องทำให้ระบบเดินไปได้ โดยเด็กได้รับประโยชน์สูงสุด
ด้านนายสำนาน มีศิริ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า แม่ครัวเร่งรีบทำอาหาร ทำให้ขาดความระมัดระวัง เพราะแม่ครัวมีจำนวนน้อย แต่นักเรียนมีจำนวนมาก และต้องปรุงอาหารให้เสร็จทันเวลา ผู้อำนวยการโรงเรียนจึงกำชับให้แม่ครัวเพิ่มความระมัดระวัง และปรุงอาหารให้ถูกสุขลักษณะ
ส่วนเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างนั้น สพฐ.ได้เรียกเอกสารที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบแล้ว ซึ่งต้องดูว่าดำเนินการถูกต้องตามระเบียบที่เกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไร หาก สพฐ.มีผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างไร สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเพชรบุรี จะนำมาศึกษาและให้เจ้าหน้าที่ติดตามผล เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
“เราตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ จะมาดูว่าผลการตรวจสอบเป็นอย่างไร ครบถ้วนหรือไม่ ซึ่ง ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบได้อยู่แล้ว หากผลเป็นไปในทางร้าย ในทางกลับกัน ผลตรวจสอบมาในทางดี ถ้าคณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้วพบว่า อาจดำเนินการไม่ถูกต้อง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ได้ต่อไป” ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเพชรบุรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันสำนักงาน ป.ป.ช.แต่ละจังหวัดจะลงพื้นที่สุ่มตรวจโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนทุกไตรมาส เพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดการทุจริต ทั้งนี้ กรณีที่งบประมาณจัดซื้อจัดจ้างไม่เกิน 500,000 บาท จะใช้วิธีเฉพาะเจาะจง แต่ถ้าเกิน 500,000 บาท จะต้องดำเนินการตามระเบียบพัสดุ ปี 2560 แต่ส่วนใหญ่ โรงเรียนจะใช้วิธีเฉพาะเจาะจง เพราะงบประมาณไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด