ตำรวจยังสงสัยลูกสาวฆ่าเผาพ่อ

View icon 127
วันที่ 3 ก.พ. 2568 | 11.05 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจยังคงสงสัยลูกสาว อาจเกี่ยวข้องกับฆ่าพ่อบังเกิดเกล้า จับมัดมือมัดคอด้วยลวด เผาอำพรางในกระท่อม แม้ว่าลูกสาวจะปฎิเสธเสียงแข็ง หากฆ่าทำไปเพื่ออะไร ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่ 10,000 บาท

เป็นคลิปภาพที่มีผู้ถ่ายไว้ ช่วงเกิดเหตุเพลิงกำลังลุกไหม้กระท่อมหลังหนึ่งในอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ คืนวันที่ 31 มกราคม 2568 หลังคุมเพลิงได้ ในกระท่อมพบ นายบุญเลี้ยง จันทศรี อายุ 73 ปี เป็นเจ้าของกระท่อม ถูกเพลิงไฟไหม้ตามร่างกาย สภาพศพที่มือและคอ ถูกมัดด้วยลวด และยังพบมีมีดปลายแหลมเหน็บอยู่ข้างศพด้วย

สอบไปสอบมาพบผู้ต้องสงสัยเป็นลูกสาวคนตายเอง อยู่กับผู้ตายคนสุดท้าย ส่วนชาวบ้านยังให้การสับสนไม่ตรงกัน บางคนบอกเห็นขี่รถมอร์เตอร์ไซต์ไปซื้อน้ำมันขวดที่ร้านค้า จากนั้นกลับเข้าบ้าน สักพักก็ขี่รถออกไป ก่อนเพลิงลุกไหม้กระท่อม ส่วนแม่ค้าร้านชำ บอกลูกสาวไม่ได้มาซื้อน้ำมันขวด แค่มาซื้อน้ำอัดลม

ตำรวจนำตัวลูกสาว นางสาวปุ้ย อายุ 26 ปี กับลูกเขย ไปสอบ พร้อมกับขอมือถือ กล้องวงจรปิดหน้าบ้าน และเก็บดีเอ็นเอ เอาไปตรวจสอบ เจ้าตัวปฏิเสธฆ่าพ่อ วันนั้นออกไปซื้อน้ำมันจริง แต่เป็นน้ำมันพืช พร้อมถามกลับคนที่สงสัย จะทำไปเพื่ออะไร มีเหตุจูงใจอะไรให้ฆ่าพ่อ สมบัติไม่มี อะไรไม่มี หนูเลี้ยงดูมาตลอด ถ้าให้พูดจริง ๆ ถ้าหนูฆ่าพ่อ ฆ่าผัวไม่ดีกว่าหรือ ผัวหนูมีประกันเป็นล้านบาท

ทีมข่าวตามไปจนพบลูกชายคนโต เป็นเจ้าของท่าข้าวและร้านอาหารในพื้นที่ บอกว่า ไม่มีมูลเหตุจูงใจอะไรให้ฆ่าพ่อ และไม่ขอฟันธงว่าใครเป็นคนฆ่า ให้ตำรวจเร่งคลี่คลายคดี

ตำรวจยังได้ไปสอบปากคำ นายอนุชา เพื่อหาเบาะแสคดีที่เกิดขึ้น เพราะตอนนี้อย่างที่บอก ไม่พบมูลเหตุจูงใจใด ๆ ในการฆาตกรรม ทั้งเรื่องทรัพย์สินเงินทอง มรดก หรือ ความโกรธแค้น แต่หลักฐานที่ตำรวจมีขณะนี้ ทั้งภาพวงจรปิดและพยานบุคคล ที่เห็นลูกสาวขี่รถออกจากกระท่อมในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ เลยเป็นผู้ต้องสงสัยคนเดียว ตำรวจกำลังหาหลักฐานเพิ่มอยู่ ส่วนศพของพ่อจะพิธีฌาปนกิจช่วงบ่ายวันนี้ ที่วัดอรุณรัตนสีสุก อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง