โลกจับตาหวั่นเกิดสงครามการค้ารอบใหม่ หลัง ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจาก เม็กซิโก, แคนาดา และจีน โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันอังคารนี้ ขณะที่ทั้ง 3 ประเทศพร้อมตอบโต้ และเตือนชาวอเมริกันจะเดือดร้อนเอง
วานนี้ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 25 % ตอบโต้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25 % โดยจะเริ่มมีผลในวันอังคารนี้เช่นเดียวกัน
ประธานาธิบดีทรัมป์ โพสต์โต้กลับว่า ชาวอเมริกันไม่มีอะไรต้องกลัว มาตรการตอบโต้ของแคนาดา เพราะสหรัฐฯ พึ่งพาตนเองได้ ส่วนแคนาดาถ้าไม่มีสหรัฐฯ สนับสนุนคงไม่มีในแผนที่โลก และชีวิตชาวแคนาดาจะดีขึ้น หากกลายเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ
ส่วน เคลาเดีย เชนบอม ประธานาธิบดีเม็กซิโก จะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ ในวันนี้ แต่ยังอยากคุยกันด้วยดีมากกว่า พร้อมทั้งปฏิเสธข้อกล่าวหาของ "ทรัมป์" ที่ระบุว่า คนในรัฐบาลเม็กซิโก เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดด้วย
ล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์เผยว่า พรุ่งนี้จะคุยกับผู้นำแคนาดาและเม็กซิโก แต่ไม่รับรองว่า จะยกเลิกเรื่องการเก็บภาษี แม้ชาวอเมริกันอาจเดือดร้อนในระยะสั้น แต่จะดีขึ้นในระยะยาว เพราะที่ผ่านมาสหรัฐฯ ถูกชาติอื่นเอาเปรียบมาตลอด
ด้าน โทมัส แซมป์สัน ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากอังกฤษ เตือนว่า การใช้มาตรการภาษีตอบโต้กัน ไม่มีประเทศใดได้ประโยชน์ และหากประธานาธิบดีทรัมป์ไม่มีท่าทีที่อ่อนลง โลกอาจเดือดร้อนจากสงครามการค้ารอบใหม่
ขณะเดียวกันประธานาธิบดีทรัมป์ ยังส่ง มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศไปยังปานามา เพื่อเตือนเรื่องที่ปล่อยให้บริษัทฮ่องกงซึ่งเป็นเขตบริหารพิเศษจีน บริหารท่าเรือ 2 แห่งใกล้คลองปานามา ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงของสหรัฐฯ ในการส่งมอบคลองให้ปานามาดูแลเมื่อปี 2542