รวบแล้ว! หนุ่มร้านลาบ กระชากกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น อ้างติดหนี้นอกระบบ

รวบแล้ว! หนุ่มร้านลาบ กระชากกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น อ้างติดหนี้นอกระบบ

View icon 131
วันที่ 3 ก.พ. 2568 | 14.19 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ไม่ถึง 24 ชั่วโมง รวบแล้ว! หนุ่มร้านลาบ ขี่รถจักรยานยนต์ กระชากกระเป๋านักท่องเที่ยวหญิง ชาวญี่ปุ่น อ้างติดหนี้นอกระบบ จ.เชียงใหม่

กล้องวงจรปิดบนถนนราชมรรคา ซอย 3 ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ บันทึกเหตุการณ์คนร้ายเป็นชาย สวมหมวกกันน็อกสีน้ำเงิน เสื้อแจ็กเก็ตแขนยาวสีดำ ขี่รถจักรยานยนต์สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ประกบเข้าไปด้านหลังของนักท่องเที่ยวหญิง ชาวญี่ปุ่นที่กำลังเดินอยู่กลางซอย แล้วอาศัยจังหวะกระชากกระเป๋าที่หญิงนักท่องเที่ยวถืออยู่ จนทำให้ล้มลงได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.27 น. เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา โดยได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เงินสด 1,500 บาท รวมทั้งกุญแจห้องพักและบัตรเครดิตอีก 3 ใบ ซึ่งคนร้ายก่อเหตุอุกอาจใจกลางเมืองในย่านแหล่งท่องเที่ยว สร้างความตื่นตกใจให้กับนักท่องเที่ยวผู้เสียหายและชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก

หลังได้รับแจ้งชุดสืบสวน สภ. เมืองเชียงใหม่ได้ ออกติดตามเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายผู้ก่อเหตุ จนพบว่าจุดสุดท้ายที่พบตัวผู้ก่อเหตุคือบริเวณหลังวัดชัยศรีภูมิ ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ คาดว่าคนร้ายน่าจะพักอาศัยอยู่ในบริเวณนี้จึงได้กระจายกำลังลงพื้นที่ จนกระทั่งวันที่ 1 ก.พ. 68 เวลา 13.45 น. พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยและหมวกกันน็อกตรงตามที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดในขณะก่อเหตุ ก่อนจะเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ในบ้านพักในบริเวณดังกล่าว

จากการสอบสวนผู้ต้องหารายนี้คือนายวงค์ตะวัน อายุ 35 ปี ซึ่งรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง พร้อมกับนำเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดทิ้งกระเป๋าของผู้เสียหาย โดยสารภาพว่าหลังพ้นโทษมาเมื่อ 2 ปีก่อนได้มาเป็นลูกจ้างร้านลาบแห่งหนึ่ง กระทั่งช่วงน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมาร้านลาบได้รับผลกระทบ ตนเองที่เป็นลูกจ้างจึงมีปัญหาเรื่องการเงินจนทำให้ต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาใช้จ่าย กระทั่งช่วงหลังไม่มีเงินมาใช้หนี้และใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว

หลังจับกุมเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือผ่านทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี

จากการตรวจสอบประวัติทางคดียังพบว่านายวงค์ตะวัน เคยก่อเหตุถูกดำเนินคดียาวเป็นหางว่าว โดยตั้งแต่ปี 2552 - 2563 ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ 4 คดี ในท้องที่สภ. ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ และยังถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน , วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะและเสพยาบ้า ท้องที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ รวมทั้งหมด 7 คดี ก่อนที่ล่าสุดจะมาก่อเหตุในครั้งนี้อีก โดยตำรวจใช้เวลาติดตามไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็สามารถจับกุมได้

ขณะที่ในวันนี้ (2 ก.พ. 68) พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา โดยมีนางเรโกะ อายุ 63 ปี ผู้เสียหายชาวญี่ปุ่น เดินทางเข้ามอบกระเช้าดอกไม้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยติดตามจับกลุ่มผู้ต้องหาได้ในเวลาอันรวดเร็ว  โดยนางเรโกะ บอกว่า รักประเทศไทยมากและเดินทางมาหลายครั้ง ล่าสุดเดินทางมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน เพื่อพักผ่อน ก่อนจะมาเจอกับเหตุการณ์ดังกล่าว

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 บอกว่าในช่วงที่ผ่านมาตลอด 3 ปี ในพื้นที่ สภเมืองเชียงใหม่ไม่มีเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์นักท่องเที่ยวเกิดขึ้น เนื่องจากมาตรการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้คาดว่าผู้ก่อเหตุซึ่งเพิ่งพ้นโทษมา คงจะไม่ทราบถึงความเข้มงวดกวดขันของเจ้าหน้าที่ จึงมาก่อเหตุแต่ทางตำรวจก็ได้ติดตามจับกลุ่มมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็วเพื่อความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว