ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจได้เบาะแส โจรชิงทอง 113 บาท มูลค่า 5.4 ล้านบาท กลางห้างดังที่ปทุมธานี เชื่อได้ตัวเร็ว ๆ นี้ ขณะที่วงจรปิดอีกมุม เห็นหน้าคนร้ายแบบชัดๆ เข้ามาดูลาดเลาก่อนลงมือ
ตำรวจได้เบาะแส โจรชิงทอง 113 บาท
กรณีคนร้ายเป็นชาย รูปร่างผอม สูงประมาณ 165 เซนติเมตร แต่งกายมิดชิด เดินแบบชิลชิลเข้ามาในร้านทอง ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ย่านลำลูกกาคลอง 5 จังหวัดปทุมธานี สั่งให้พนักงานของร้าน 2 คน นั่งลงกับพื้น จากนั้นได้ชิงทองรูปพรรณที่โชว์อยู่ในตู้ ใช้เวลาแค่ 1 นาที กวาดทองรูปพรรณไปได้ 113 บาท มูลค่าประมาณ 5.4 ล้านบาท ขณะก่อเหตุ ชายคนดังกล่าวไม่มีอาวุธ มีท่าทีใจเย็น หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อ 11.30 น. เมื่อวานนี้
ล่าสุด ทีมข่าวไปที่ร้านทองที่เกิดเหตุ ยังเปิดขายทองตามปกติ พนักงานขาย 2 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ ช่วยกันทำความสะอาดตู้กระจกใส่ทอง หลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว
จากการตรวจสอบ พบว่าในห้างแห่งนี้มีร้านจำหน่ายทองจำนวน 2 ร้าน ทั้งสองแห่งไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน โดยร้านที่เกิดเหตุอยู่ติดกับบันไดขึ้นลง เหมาะกับการก่อเหตุ
ขณะที่ กล้องวงจรปิดบริเวณทางเข้าห้างฯ บันทึกภาพชายที่คาดว่าเป็นคนร้าย เดินเข้ามาจากทางด้านหลังห้าง เป็นลานจอดรถ ในเวลา 11.13 น. ก่อนจะเดินขึ้นมาชั้น 2 ตอนที่เดินผ่านกล้องวงจรปิดเข้ามา ชายคนนี้ไม่ใส่หมวก คาดว่าน่าจะมาเดินดูลาดเลาก่อน แล้วเข้าไปซื้อหมวกที่ร้านในห้างฯ
รอหลักฐานก่อนออกหมายจับมือชิงทอง
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังระดมทีมสืบสวนเร่งล่าตัวคนร้าย โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา มีการประชุมเพื่อเร่งคลี่คลายคดีที่ตำรวจภูธรภาค 1
พลตำรวจโท อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ยืนยันว่า ณ เวลา พบว่าคนร้ายก่อเหตุเพียงลำพัง ไม่มีอาวุธ ใช้รถจักรยานยนต์ในการก่อเหตุ ยังอยู่ระหว่างสืบสวนว่าคนร้ายเป็นใคร ยังไม่มีการออกหมายจับ ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนมากกว่านี้ และยังอยู่ระหว่างสืบสวนว่าคนร้ายยังอยู่ในพื้นที่หรือหนีออกพื้นที่ไปแล้ว
ถูกก่อเหตุชิงทองมาแล้ว 6 ครั้งในรอบ 10 ปี
ขณะที่ร้านทองที่มีชื่อเดียวกันนี้นั้น ทางผู้ช่วย ผบ.ตร. ระบุว่า ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ในเฉพาะพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 1 เคยถูกก่อเหตุมาแล้ว 6 ครั้งในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนี้จะเชิญผู้เกี่ยวข้อง มาหารือเพื่อปรับแนวทางในการป้องกันเหตุ
ตำรวจได้มีการกำชับร้านค้าทองที่รับซื้อทองรูปพรรณในช่วงนี้ ให้ตรวจสอบว่าเป็นทองรูปพรรณที่มาจากร้านที่ถูกชิงไปหรือไม่
มีรายงานว่า หลังก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุได้เดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่จอดในลักษณะหลบมุมกล้องวงจรปิด ก่อนที่จะขี่ออกไปมุ่งหน้าถนนลำลูกกาขาออก ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางไปรษณีย์สาขาลำลูกกา แล้วใช้เส้นทางลัดเลาะเส้นทางสายใน
มีการใช้เส้นทางแบบชำนาญคล้ายกับคนในพื้นที่ ก่อนที่จะหายไปในเส้นทางถนนคลอง 7 ธัญบุรี-ลำลูกกา เบื้องต้น ตำรวจมีกลุ่มเป้าหมายแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ คาดว่าน่าจะได้ตัวคนร้ายเร็ว ๆ นี้