สนามข่าว 7 สี - เหยื่อขบวนการหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซนเตอร์ยังมีต่อเนื่อง อย่างรายล่าสุด ชายหญิงคู่หนึ่ง อายุ 22 และ 18 ปี ถูกน้าแท้ ๆ หลอกขายให้แก๊งคอลเซนเตอร์ เหมารถจากจังหวัดเชียงราย มาพักรอข้ามแดนที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เกิดเอะใจไหวตัวทัน หนีออกมาขอความช่วยเหลือ
ก่อนไปฟังเรื่องราวของเหยื่อทั้ง 2 คน ทีมข่าวปล่อยให้น้อง ๆ กินข้าวให้อิ่ม นี่เป็นมื้อแรกหลังตัดสินใจหนีออกมาขอความช่วยเหลือ เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา
ทั้งสองคนเป็นแฟนกัน ฝ่ายชายอายุ 22 ปี ฝ่ายหญิงอายุ 18 ปี ถูกน้าแท้ ๆ ของฝ่ายหญิง หลอกขายให้กับแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยมีนายหน้าเป็นธุระจัดหา เหมารถรับจ้าง 10,000 บาท ให้มารับทั้งสองคนที่จังหวัดเชียงราย มาส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว กลางดึกคืนก่อน
พอมาถึงมีคนมาเปิดห้องพักให้ บอกให้คอยที่นี่ เดี๋ยวช่วงเช้ามืดจะมีคนพาข้ามไปฝั่งนู้น ผ่านช่องทางธรรมชาติ ทั้งคู่เอะใจ ตัดสินใจจูงมือกันหนีออกมาจากที่พักช่วง 03.00 น. ขอความช่วยเหลือ
เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน บอกว่าเคสนี้น่าสนใจ เพราะเป็นแคสแรกที่เหยื่อเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแท้ ๆ การช่วยเหลือและส่งกลับต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเหยื่อด้วย
ระหว่างที่เหยื่ออยู่กับทีมช่วยเหลือฯ ปลายสายโทรมารบเร้าถามหาทำไมไม่อยู่ที่ห้องพัก เหยื่ออ้างว่าออกมาทำธุระ ขอเวลาสักพัก ก่อนที่ปลายสายจะนัดแนะให้ไปที่จุดนัดพบ
ทีมงานตัดสินใจพาเหยื่อมาแจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน เพื่อซ้อนแผนจับกุมผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม
เมื่อถึงเวลานัด มีหญิงสวมเสื้อสีเขียว ขี่รถจักรยานยนต์มารับทั้งสองคนไปปล่อยทิ้งไว้ที่โกดังแห่งหนึ่ง ตรงข้ามห้างสรรพสินค้า ซึ่งแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่าเป็นจุดที่ใช้ลักลอบส่งคนข้ามไปฝั่งปอยเปตผ่านช่องทางธรรมชาติ หรือที่คนในพื้นที่เรียกว่า "ทางหมาลอด" เพื่อรอคนมารับอีกทอดหนึ่ง
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่แสดงตัวจับกุมหญิงเสื้อเขียว ซึ่งทำหน้าที่คอยรับส่งเหยื่อตามจุดนัด เพื่อรอข้ามแดน
สอบสวนเบื้องต้นรับสารภาพได้ค่าหัวเหยื่อคนละ 500 บาท เคยทำบัญชีม้า แต่บัญชีตาย เลยต้องมาหาเงินด้วยการตระเวนรับส่งเหยื่อ เจ้าหน้าที่ขยายผล พบว่ามีหมายจับอีก 4 หมาย เตรียมประสานส่งตัวดำเนินคดี ส่วนเหยื่อทั้งสองคนนำมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป