วอนช่วยคนไทยถูกหลอกไปทำงานกัมพูชา

View icon 57
วันที่ 5 ก.พ. 2568 | 11.26 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - แม่และพี่ชาย มาขอความช่วยเหลือแทนชายอายุ 20 ปี ที่ตอนนี้อยู่ในมือแก๊งคอลเซนเตอร์ ทั้งที่ไม่ได้อยากไป ไม่ได้ถูกหลอกให้ไปด้วย แต่ถูกวางยาแล้วลักพาตัวไป

นางขจร แม่ของนายเจตน์สฤษฏ์ ที่ถูกนางนกต่อทักแช็ตคุยไอจี ทำทีฟีลแฟนชวนออกไปข้างนอก สุดท้ายไปโผล่ที่ประเทศกัมพูชา เล่าเรื่องนี้ให้ฟังว่า ได้เจอลูกครั้งสุดท้ายวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ตอนนั้นเดินไปขึ้นรถแท็กซี่ ไม่ได้พกบัตรประชาชน หรือพาสปอร์ตไป เพราะบอกว่าจะไปทำธุระแป๊บเดียว จนมาอีกวัน ลูกสาวเดินมาบอกว่า พี่ถูกลักพาตัวข้ามไปกัมพูชาแล้ว ตอนนี้อยู่ที่เมืองปอยเปต ถูกสั่งให้ทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ คอยพูดตามสคริปต์ ถ้าไม่ทำก็ให้หาเงิน 2 ล้านบาทมาไถ่ตัว ซึ่งนอกจากลูกชายแล้ว ยังมีคนไทยอีกประมาณ 50 คนอยู่ที่นี่ และใครที่คิดหนีก็จะถูกซ้อมปางตาย อยากขอให้หน่วยงานไทยช่วยเหลือลูกขอเธอด้วย

ไม่ต่างจาก 2 คนนี้ที่เราไปลงพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว แล้วเจอเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์ หนีออกมาขอความช่วยเหลือโดยบังเอิญ เหยื่อทั้ง 2 คน เล่าให้เราฟังว่าถูกน้าแท้ ๆ ของฝ่ายหญิง หลอกจากจังหวัดเชียงราย ว่าจะพามาทำงานบริษัท แต่มาเอะใจเรื่องที่ต้องข้ามไปทำงานในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เลยตัดสินใจหลบหนี

ขณะที่ทีมข่าว ยังช่วยประสานซ้อนแผนกับเจ้าหน้าที่ ไปจับกุมผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม เป็นหญิงที่ทำหน้าที่คอยรับส่งเหยื่อตามจุดนัด เพื่อรอข้ามแดน ผ่านช่องทางธรรมชาติ หรือที่คนในพื้นที่เรียกว่า “ทางหมาลอด” เพื่อรอคนมารับอีกทอดหนึ่ง สอบสอนเบื้องต้น เธอยอมรับว่าได้ค่าหัวเหยื่อคนละ 500 บาท เคยทำบัญชีม้า แต่บัญชีตาย เลยต้องมาหาเงินด้วยการตระเวนรับส่งเหยื่อ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ขยายผล พบว่ามีหมายจับอีก 4 หมาย เตรียมประสานส่งตัวดำเนินคดี ส่วนเหยื่อทั้งสองคน จะหาแนวทางช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไป

ขณะที่ ตำรวจ สภ.แม่ระมาด ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และศุลกากรแม่สอด จังหวัดตาก ไปเจอรถกระบะบรรทุกสินค้า กำลังจะข้ามแดน ที่ตำบลแม่จะเรา จึงเรียกตรวจค้น พบอุปกรณ์สื่อสาร ทั้งตัวกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ต 26 ตัว กล้องวงจรปิด 76 ตัว เซิร์ฟเวอร์ 1 ชุด ตัวแปลงสัญญาณ 20 ชิ้น อุปกรณ์ต่าง ๆ และเงินสดอีกว่า 170,000 บาท จึงคุมตัวนายอนุศักดิ์ อายุ 54 ปี ชาวแม่สอด คนขับรถมาสอบสวน เจ้าตัวอ้างว่า รับจ้างขนส่งสินค้า ไม่รู้มาก่อนว่าเป็นสินค้าอะไร แต่ตำรวจเชื่อว่าสินค้าเหล่านี้จะนำไปให้แก๊งคอลเซนเตอร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง