ตำรวจไซเบอร์ กวาดล้างอาชญากรข้ามโลก รวบ 4 แฮกเกอร์ต่างชาติ ใช้มัลแวร์เรียกค่าไถ่ ผู้เสียหายกว่า 1,000 ราย สูญเงินกว่า 560 ล้านบาท
ความคืบหน้ากรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการด่วน ตามที่ทางการสหรัฐอเมริกาและทางการสมาพันธรัฐสวิส ขอความร่วมมือระหว่างประเทศ เรื่อง ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน และความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญามายังประเทศไทย ให้ช่วยตรวจสอบและหาพยานหลักฐานของกลุ่มผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดน มีรูปแบบเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
ผู้ต้องหากลุ่มนี้ ได้ใช้แรนซัมแวร์จู่โจมบริษัทผู้เสียหายในสวิตเซอร์แลนด์กว่า 17 บริษัท ในช่วงระหว่างวันที่ 30 เม.ย.66 จนถึงวันที่ 26 ต.ค.67 โดยกลุ่มผู้ต้องหามีการเข้าถึงเครือข่ายของผู้เสียหาย โดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากนั้นมีการทำสำเนาและโจรกรรมข้อมูลจากการเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของผู้เสียหาย และใช้มัลแวร์เรียกค่าไถ่ Phobos เพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลเข้ารหัสไฟล์ของผู้เสียหาย จากนั้นจึงวางไฟล์ขู่เรียกค่าไถ่ไว้ในคอมพิวเตอร์ โดยขู่ให้ผู้เสียหายจ่ายค่าไถ่เป็นสกุลเงินดิจิทัล เพื่อแลกกับคีย์สำหรับถอดรหัส
หากผู้เสียหายปฏิเสธที่จะจ่ายเงิน กลุ่มผู้ต้องหาจะติดตามการโจมตีด้วยการส่งอีเมลหรือโทรศัพท์ข่มขู่ไปยังผู้เสียหาย เพื่อขู่กรรโชกว่าจะขายหรือเปิดเผยข้อมูลของเหยื่อ หากปฏิเสธที่จะจ่ายเงินเรียกค่าไถ่ นอกจากนี้ กลุ่มผู้ต้องหายังมีการ Mixing-Service สกุลเงินดิจิทัล เพื่อขัดขวางการติดตามย้อนกลับการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน อีกด้วย ซึ่งพบมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนกว่า 16 ล้านเหรียญสหรัฐ
พล.ต.ท.ไตรรงค์ฯ ผบช.สอท. นำกำลังตำรวจไซเบอร์ ลงพื้นที่เป้าหมาย 4 จุด ที่จังหวัดภูเก็ต ด้วยตนเอง ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจภูธรภาค 8 ควบคุมตัวผู้ต้องหา 4 คน