จีน เริ่มบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ อีก 10-15 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ ทรัมป์ ขู่เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม กระทบทุกประเทศ
วันนี้ (10 ก.พ.) จีนเริ่มบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ หลายรายการ โดยเพิ่มค่าธรรมเนียมนำเข้าถ่านหิน และก๊าซ LPG อีก 15 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสินค้าประเภทน้ำมันดิบ, อุปกรณ์การเกษตร และยานยนต์ ขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ หลังรัฐบาลจีนมีการประกาศออกมา เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนทุกประเภทอีก 10 เปอร์เซ็นต์
ผู้ประกอบการสินค้าส่งออกของจีนบางราย ที่มณฑลเจ้อเจียง เปิดเผยว่า ไม่รู้สึกว่าได้รับผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีสินค้าของสหรัฐฯ โดยหลายรายได้เตรียมกลยุทธ์พร้อมรับมือไว้แล้ว ขณะที่ ผู้ประกอบการสินค้าของเล่นรายหนึ่งบอกว่า แม้ว่าภาษีของสหรัฐฯ จะถูกปรับสูงขึ้นไปอีกถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เขาก็แทบไม่ได้รับผลกระทบ เพราะเป็นสินค้าที่มีกำไรสูง จึงแบกรับต้นทุนได้ และยังมีเหตุผลให้ขึ้นราคาสินค้าด้วย ส่วนพ่อค้าคนกลางที่ซื้อสินค้าจากจีนให้กับลูกค้าในหลายประเทศ ทั้งสหรัฐฯ, ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง กล่าวว่า บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในเมืองต่างมีคำสั่งซื้อเข้ามาไม่ขาดสาย ในทางกลับกันเกิดความสงสัยว่าสหรัฐฯ จะหาสินค้าจากประเทศอื่นมาทดแทนสินค้าที่นำเข้าจากจีนได้หรือไม่
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศจะจัดเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก และอลูมิเนียมทุกประเภทอีก 25 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มเติมจากภาษีนำเข้าโลหะที่มีอยู่เดิม ซึ่งถือเป็นการยกระดับนโยบายการค้าครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยคาดว่า จะมีการประกาศมาตรการขึ้นภาษีดังกล่าว ในวันอังคาร หรือวันพุธนี้ และจะมีผลบังคับใช้ทันที และมีผลกับทุกประเทศด้วย
ทั้งนี้ แหล่งนำเข้าเหล็กที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ คือ แคนาดา บราซิล และเม็กซิโก รองลงมา คือ เกาหลีใต้ และเวียดนาม