ตำรวจน้ำ เปิดยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ายาอ่าวไทย ล่อซื้อเฮโรอีนบิ๊กล็อต 7.5 กิโลกรัม มูลค่า 4 ล้านบาท ขยายผลจับ 4 ผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายา เปลี่ยนเส้นทางส่งยาฝั่งอ่าวไทย ก่อนส่งขึ้นเรือสินค้าไปประเทศที่สาม
วันนี้ (10 ก.พ.68) พ.ต.อ.เศรษฐศิริ นิภพยะ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี รรท.ผบก.รน. แถลงผลปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจน้ำ ชุดมัจฉานุ กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจน้ำ พร้อมชุดสืบสวนกองกำกับการ 6 และชุดสืบสวน กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ร่วมกันล่อซื้อยาเสพติดจากกลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด หลังนัดรับส่งยาเสพติดกันที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา หลังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา 5 คน พร้อมไอซ์ น้ำหนัก 80 กิโลกรัม ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงกลางปี 2567
โดยครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน ที่ลานจอดรถรีสอร์ตดังกล่าว ค้นในรถพบเฮโรอีน บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส 20 ถุง ถุงละ 350 กรัม แต่ละถุงประทับตราหมึกสีแดง ตราอักษรจีนและภาษาอังกฤษ "DOUBLE UOGLOBE BRAND" และตราสัญลักษณ์สิงห์คู่เหยียบลูกโลกน้ำหนักรวมประมาณ 7.5 กิโลกรัม จากนั้นขยายผลไปจับกุมเครือข่ายดังกล่าวได้อีก 1 คนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ และยึดรถยนต์ได้ทั้งหมด 3 คัน พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 25 นัด
ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.สิงหนคร ดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เฮโรอีน โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยฝ่าฝืนผิดกฎหมาย และข้อหามีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
พ.ต.อ.เศรษฐศิริ เปิดเผยว่า ตำรวจมีแผนสกัดกั้นยาเสพติดตั้งแต่ต้นทาง โดยเฉพาะชายแดนไทย-เมียนมา และชายแดนไทย-ลาว ไม่ให้เล็ดรอดเข้าพื้นที่ตอนกลางและลงสู่พื้นที่ตอนล่าง ซึ่งจะใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่สามและสี่ โดยกำชับให้ตำรวจน้ำแต่ละพื้นที่ ประสานข้อมูลกับ ป.ป.ส. กองปราบปราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อมูลเครือข่ายค้ายาเสพติด
ด้าน พ.ต.อ.นิรัตน์ ช่วยจิตต์ ผกก.6 บก.รน. เปิดเผยว่า เครือข่ายดังกล่าวเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาเสพติดด้านจังหวัดสตูล ซึ่งก่อนหน้านี้ ตำรวจน้ำก็ยึดไอซ์ที่ลอยในทะเล และลอยติดในป่าโกงกางในพื้นที่จังหวัดตรังและสตูลได้จำนวนมาก เครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ จึงหันมาใช้เส้นทางฝั่งอ่าวไทย โดยนำยาเสพติดมาพักไว้ ก่อนส่งลงเรือเล็ก และขนถ่ายใส่เรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ ส่งไปยังประเทศที่สามและสี่ เช่น ออสเตรเลีย ซึ่งเฮโรอีนล็อตนี้ออกจากโรงงานและผ่านไทย มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท แต่หากส่งไปยังปลายทางได้สำเร็จจะมีมูลค่าเพิ่ม 4-5 เท่า หรือประมาณ 30 กว่าล้านบาท