องคมนตรี ตรวจเยี่ยมโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่จังหวัดนครปฐม

View icon 948
วันที่ 10 ก.พ. 2568 | 20.06 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปตรวจเยี่ยมศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านอุเบกขา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ศูนย์ฝึกเฉพาะ ด้านการบำบัดพิเศษ รับเด็กและเยาวชนที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ จากพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง ปัจจุบัน มีผู้อยู่ในความดูแล 18 คน มีพยาบาลวิชาชีพ 2 คน และนักจิตวิทยา 3 คน มีโรงพยาบาลพุทธมณฑล เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ได้รับพระราชทานเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าสำหรับใช้รักษาเบื้องต้น มีการประเมินตามสภาวะสุขภาพแบบองค์รวม, คัดกรองจำแนกการใช้ยาเสพติด แก้ไขบำบัดฟื้นฟูรายบุคคล ปัจจุบัน มีเด็กและเยาวชนจิตเวช ในความดูแล 5 คน และมีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพกาย-ใจ เช่น ศิลปะ (ช่างสิบหมู่), คหกรรม และดนตรี

ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนสิรินธร อำเภอพุทธมณฑล เป็นศูนย์เฉพาะทางด้านวิชาชีพ รับเยาวชนที่มีความประพฤติดี สนใจเข้ารับการฝึกวิชาชีพจากศูนย์ฯ ทั่วประเทศ และเยาวชนที่ศาลเยาวชนและครอบครัว มีคําพิพากษาให้เข้ารับการฝึก ปัจจุบัน มีผู้อยู่ในความดูแล 61 คน มีพยาบาลวิชาชีพ และนักจิตวิทยา 3 คน ได้รับพระราชทานเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า โดยมีโรงพยาบาลพุทธมณฑล ตรวจรักษาโรคเบื้องต้น ผ่านระบบ Telemedicine และด้านจิตเวชผ่านระบบเทคโนโลยีสื่อสารทางไกล ร่วมกับสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ โดยติดตามผลการรักษาทุกเดือน มีเด็กและเยาวชนจิตเวช 3 คน

ให้การศึกษาทั้งสายสามัญ และการศึกษาทางเลือก จากศูนย์การเรียนเซนต์ยอห์นบอสโกอุปถัมภ์ วิทยาลัยการอาชีพพุทธมณฑล และวิทยาลัยเทคโนโลยีชื่นชมไทย-เยอรมัน สระบุรี, การฝึกวิชาชีพระยะสั้น จากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 16 นครปฐม 9 หลักสูตร รวมถึงสถาบันต่าง ๆ อาทิ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ฝึกให้มีทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน, เครือข่าย ส่วนบริษัท มโนราห์อุตสาหกรรมอาหาร จํากัด ฝึกขับรถโฟล์คลิฟท์ และเครือข่าย บริษัท สยามทรอลี่โปรเกรสชัน จํากัด ร่วมกับวิทยาลัยเทคโนโลยีชื่นชมไทย-เยอรมัน สระบุรี ฝึกรถขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก พร้อมรับเข้าทํางาน

ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านมุทิตา อำเภอพุทธมณฑล เป็นศูนย์เฉพาะ ด้านการพัฒนาเด็ก รับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ในกรุงเทพมหานคร หรือ เยาวชนอายุต่ำกว่า 17 ปี จากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณา เมื่ออายุ 18 ปีบริบูรณ์ จะส่งไปฝึกอบรมต่อที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณา ปัจจุบัน มีผู้อยู่ในความดูแล 53 คน ส่วนใหญ่คือฐานความผิดต่อชีวิตและร่างกาย มีพยาบาลวิชาชีพ 1 คน และนักจิตวิทยา 2 คน

มีโรงพยาบาลพุทธมณฑล เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ตรวจคัดกรองวัณโรคปอด, ประเมินการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนตามมาตรฐานองค์การสหประชาชาติ, ตรวจรักษาผ่านระบบ Telemedicine, ด้านจิตเวชผ่านระบบเทคโนโลยีสื่อสารทางไกล ร่วมกับสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ มีการอบรมเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการฟื้นคืนชีพ ปัจจุบัน มีเด็กและเยาวชนจิตเวช 6 คน มีการฝึกวิชาชีพช่างยนต์, ช่างเชื่อม, วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และฝึกจิตใจด้วยศาสนบำบัด

จากนั้น เดินทางไปยังโรงพยาบาลพุทธมณฑล โดยได้เชิญพระราชกระแสความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่แพทย์ พยาบาล และบุคลากรเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
   
โรงพยาบาลพุทธมณฑล มีขนาด 30 เตียง เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายที่ดูแลศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนทั้ง 3 แห่ง รวมทั้งประชาชนในอำเภอพุทธมณฑล มี "ห้องปันสุข" แยกจากผู้ป่วยทั่วไป ปัจจุบัน ไม่มีผู้เข้ารับการรักษา

ในช่วงบ่าย ไปตรวจเยี่ยมโครงการราชทัณฑ์ปันสุขทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ณ เรือนจำกลางจังหวัดนครปฐม พร้อมเปิด "มหกรรมเรือนจำ มหกรรมสุขภาพกายและจิตห่างไกลโรคไม่ติดต่อ" เพื่อให้ผู้ต้องขังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน และความดันโลหิต อาทิ ส่งเสริมการออกกำลังกาย สร้างความรู้ด้านโภชนาการ

เรือนจำกลางจังหวัดนครปฐม ควบคุมผู้ต้องขังกำหนดโทษตลอดชีวิต มีผู้ต้องขังชาย-หญิง 4,113 ราย ได้รับพระราชทานครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 22 รายการ และอุปกรณ์พระราชทานในการฝึกอบรมผู้ต้องขัง ที่เข้าร่วมโครงการอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ หรือ อสรจ. มีพยาบาลวิชาชีพ 7 คน, นักจิตบำบัด 1 คน และ อสรจ. 166 คน มีโรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ส่วนผู้ต้องขังหญิง ได้รับคัดกรองมะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก พบผู้ต้องขังป่วยจิตเวช 156 ราย  

มีการขึ้นทะเบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพกับโรงพยาบาลแม่ข่าย รวมถึงขึ้นทะเบียนคนพิการ, ผู้สูงอายุ และลูกผู้ต้องขัง ส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคและฟื้นฟูสมรรถภาพพื้นฐานตามกลุ่มวัย ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์ 2 คน และมีเด็กติดผู้ต้องขัง 6 คน

จากนั้น เดินทางไปยังโรงพยาบาลนครปฐม ขนาด 860 เตียง เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำกลางจังหวัดนครปฐม มีบริการตรวจรักษาด้วยระบบ Telemedicine ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงการรักษา สามารถรับการวินิจฉัยและตรวจรักษา ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช่น โรคทั่วไป จิตเวช และเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ทำให้ผู้ต้องขังได้รับการรักษาทันท่วงที มี "หอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข" สำหรับผู้ต้องขังป่วย เพื่อพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วยและความปลอดภัย ปัจจุบันไม่มีผู้ต้องขังนอนพักรักษา