ห้องข่าวภาคเที่ยง - ครบ 7 วัน พอดีสำหรับมาตรการกดดันเพื่อแก้ปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ เมื่อวานมีผู้ใหญ่หลายหน่วยงานลงมาดูปัญหาหน้างาน ก็คาดการณ์ว่าวันนี้น่าจะมีเรื่องปัญหาเรื่องน้ำมัน
ค้นโรงแรม สแกนหาเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์
เป็นภาพขณะที่ ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร พร้อมด้วย ตำรวจ บก.สอท. 4 และตำรวจ สภ.แม่สอด นำกำลังเข้าค้นที่พักอย่างน้อย 2 จุด ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก อย่างจุดนี้เป็นโรงแรม เจอชาวต่างชาติ 14 คน มีทั้งชาวเอธิโอเปีย เวียดนาม และอินเดีย ที่อยู่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และมี 1 คน ไม่มีพาสปอร์ตติดตัว มีเพียงรูปในโทรศัพท์มือถือ
จากการลงพื้นที่ของทีมข่าวในช่วงหลายวันที่ผ่านมา พบว่า โรงแรมที่เข้ามาตรวจสอบในวันนี้ เป็นโรงแรมที่ชาวต่างชาติ ระบุตอนแจ้งกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ว่าเข้าพักที่นี่เป็นประจำเกือบ 100% แต่หลังจากเข้าพักแล้ว ชาวต่างชาติกลุ่มนี้ ก็จะเดินทางต่อไปยังพรมแดนธรรมชาติ และลักลอบข้ามไปยังเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา จึงคาดว่าจะไปทำงานให้แก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งก็จะมีทั้งที่ตั้งใจไป และถูกหลอกไป
นอกจากนี้ ทหารยังมีปฏิบัติการร่วมกับ ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ศุลกากร สกัดตรวจสอบรถบรรทุกขนส่งสินค้า บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ในตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด หลังทราบข่าวว่า จะมีการอำพรางน้ำมันเชื้อเพลิงไปกับรถยนต์ขนส่งสินค้าของชาวเมียนมา ซึ่งก็ไปเจอจริง ๆ มีถังพลาสติก 6 ถัง ขนาดประมาณ 305 ลิตร, ถังขนาด 200 ลิตร 1 ถัง, 30 ลิตร 2 ถัง และขนาด 5 ลิตร อีก 3 ถัง โดยมี นายเรน อายุ 36 ปี สัญชาติเมียนมา เป็นคนขับ เจ้าตัวบอกว่า ซื้อน้ำมันทั้งหมดนี้มาในราคา 8,000 บาท เพื่อจะเอาข้ามไปทางเมียนมา โดยปะปนมากับสินค้าอุปโภคบริโภค และอาหารสด
ที่จังหวัดเชียงราย หน่วยเฉพาะกิจทับเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง ได้ประชุมหารือกัน เป็นการหารือเรื่องการค้าตามแนวชายแดน การประสานขอความร่วมมือจับกุมผู้ต้องหาระหว่างประเทศ ยังไม่มีการพูดคุยกันถึงสถานการณ์การตัดไฟฟ้า น้ำมัน และอินเทอร์เน็ต และยังไม่มีร้องขอใด ๆ จากทางการเมียนมา
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวของเราไปเกาะติดดูมาตรการที่กำหนดให้รถ 1 คัน เข้า-ออกไทย ได้เที่ยวเดียว เพื่อป้องกันการกักตุน ไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำมัน ได้พูดคุยกับชาวเมียนมาที่ข้ามมาเติมน้ำมันฝั่งไทย บอกว่า ตอนนี้ราคาน้ำมันที่เมียนมา สูงไปเกือบ 2 เท่าแล้ว จากสถานการณ์น้ำมันขาดแคลน
ส่วนที่กรุงเทพฯ ช่วงบ่ายวันนี้ต้องจับตาดูกันดี ๆ เพราะ DSI จะไปหารือกับอัยการ เพื่อเตรียมขอศาลฯ ออกหมายจับผู้นำกองกำลัง BGF หรือผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง กองกำลังสำคัญที่ปกครองเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา เนื่องจากพบมีการนำชาวอินเดียไปค้ามนุษย์ บังคับทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่จังหวัดเมียวดี ที่อยู่ตรงข้ามอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เมื่อปี 2565 แล้วทางการไทยช่วยออกมาได้ ซึ่งจะต้องหารือกับอัยการว่ามีความเห็นอย่างไร เนื่องจากเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร
สำหรับผู้ต้องหาที่ DSI จะเสนอให้ออกหมายจับ มี 3 คน คือ พันเอกซอชิตตู่ หรือ พันเอกหม่องชิตตู, พันโท โมเต โธน และ พันตรี ทิน วิน ซึ่ง พันเอกหม่องชิตตู มีข้อมูลว่า เป็นผู้นำ "DKBA" ที่เรานำเสนอข่าวไปเมื่อวานนี้ เรื่องที่ประกาศว่าจะขับไล่กลุ่มจีนเทาออกจากพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในขบวนการ และอยู่ระหว่างพิจารณาหลักฐานเพิ่มเติม
"ภูมิธรรม" ออกคำสั่งให้ คนทำผิดกฎหมายออกนอกพื้นที่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงนามคำสั่งเรียกกลุ่มที่พัวพันกับการกระทำผิดกฎหมาย ที่อาจรวมถึงที่ไปเกี่ยวพันกับแก๊งคอลเซนเตอร์ และวันพรุ่งนี้ (12 ก.พ.) จะลงพื้นที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา พร้อมประเมินว่าต้องแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างไร
ขณะที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บอก ทางการเมียนมา ยอมรับพื้นที่ชนกลุ่มน้อย ไม่สามารถเข้าไปควบคุมได้ ก็ต้องกดดันด้วยวิธีดังกล่าว และพร้อมให้ความร่วมมือ และให้ทางการไทยดำเนินการได้อย่างเต็มที่
ส่วนการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตในจุดที่ต้องสงสัย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีดีอี ยืนยัน ตัดหมดแล้ว และจะมีการตรวจสอบทุกสัปดาห์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 เดือน ส่วนสัญญาณสตาร์ลิงก์ ก็อยากจะควบคุมเช่นกัน จึงจะขอความร่วมมือไปประเทศเพื่อนบ้าน เพราะถือว่าเป็นสัญญาณที่นำมาใช้ในการกระทำความผิด
สมช.เตรียมเสนอ ยกเลิกขายโซลาร์เซลล์
สมช. มีการประชุมกลุ่มย่อย ๆ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และผู้แทนเหล่าทัพ ประเมินสถานการณ์ ที่ยังมีอีกแนวคิดการห้ามส่งออกโซลาร์เซลล์ โดยที่ต้องรอกระทรวงพาณิชย์พิจารณา