มาตรการที่ 1. จ่ายตรง คงทรัพย์
ลดภาระค่างวด ผ่อนปีแรกน้อย และค่อย ๆ ผ่อนเพิ่มขึ้นใน 3 ปี ทั้งหนี้บ้าน รถ รถจักรยานยนต์ หนี้ธุรกิจ SMEs โดยดอกเบี้ยจะถูกพักไว้ 3 ปี และเงินที่จ่ายเข้าไปจะนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด ทำให้ปิดหนี้ได้ไวขึ้น ต้องเป็นสินเชื่อที่ทำสัญญาก่อน 1 มกราคม 2567 และมีสถานะหนี้ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ค้างจ่ายเกิน 30 วัน นับจากวันครบกำหนดชำระ แต่ไม่เกิน 365 หรือ เคยปรับโครงสร้างหนี้หลัง 1 ม.ค.65 โดยก่อนปรับเคยค้างชำระเกินกว่า 30 วัน นับจากวันครบกำหนด
โดยมาตรการนี้ จะลดภาระผ่อนชำระ 3 ปี เหลือเพียง 70% และ ลดดอกเบี้ยให้ 10% ตลอดระยะเวลา 3 ปี โดยพักดอกเบี้ยส่วนที่ลดให้ และ ยกเว้นให้เลย หากลูกหนี้ทำตามเงื่อนไขได้
คุณสมบัติลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการแก้หนี้, สินเชื่อบ้าน, บ้านแลกเงิน วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท, สินเชื่อเช่าซื้อ, จำนำทะเบียนรถยนต์ วงเงินไม่เกิน 800,000 บาท สินเชื่อเช่าซื้อ, จำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท, สินเชื่อธุรกิจ SMEs วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท
มาตรการที่ 2. จ่าย ปิด จบ
สำหรับหนี้บุคคลธรรมดาที่เป็นหนี้เสีย มียอดคงค้าง (รวมดอกเบี้ย) ไม่เกิน 5,000 บาท โดยชำระเพียงบางส่วนก็ปิดบัญชีได้ รูปแบบการช่วยเหลือ ปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรนและชำระหนี้ปิดบัญชีได้เร็วขึ้น คุณสมบัติลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการ ลูกหนี้บุคคล ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 มีภาระหนี้ต่อบัญชี ไม่เกิน 5,000 บาท ไม่จำกัดประเภทสินเชื่อ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1213 หรือ Call center ของสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการและกดเบอร์ต่อ 99
โดยผู้เข้าร่วมทั้ง 2 มาตรการ ต้องทำตามเงื่อนไข และไม่สร้างหนี้ใหม่ใน 12 เดือนแรก
ผู้สนใจลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์แบงก์ชาติ www.bot.or.th/khunsoo หรือติดต่อสาขาธนาคารเจ้าหนี้ ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ สอบถามโทร 1213
วิธีลงทะเบียนแก้หนี้ คุณสู้เราช่วย ผ่านเว็บไซต์ ธนาคารแห่งประเทศไทย
หน้าเว็บจะมีให้คลิก "ลงทะเบียน" เมื่อกดเข้าไปแล้ว จะมีขั้นตอนดังนี้
1. จะให้เราตรวจสอบรายละเอียดมาตรการ คุณสมบัติ และเงื่อน จากนั้นกดลงทะเบียน
2. สมัครเข้าใช้ระบบด้วยอีเมล หรือ ThaID โดยสแกน QR บนแอปพลิเคชัน ThaID
3. กรอกข้อมูลลงทะเบียนให้ครบถ้วน
4. ส่งคำขอแก้หนี้ โดยกด "เพิ่ม" เพื่อกรอกข้อมูลหนี้ เลือกผู้ให้บริการ ซึ่งก็คือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ และเลือกผลิตภัณฑ์ สินเชื่อที่ต้องการเข้าร่วม
5. ตรวจความถูกต้อง กดยอมรับ และกดส่งเพื่อยืนยันการลงทะเบียน
6. ลงทะเบียนเสร็จสิ้น ลูกหนี้เก็บหมายเลขคำร้อง เพื่อติดตามสถานะการลงทะเบียน เมื่อลงทะเบียนเสร็จ เจ้าหนี้ธนาคาร จะเริ่มติดต่อกลับ หรือ ตรวจสอบสถานะทาง https://www.bot.or.th/khunsoo
ล่าสุด ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 746,912 บัญชีจากลูกหนี้ 642,030 ราย และยังพบว่ามีลูกหนี้ทยอยสมัครเข้าร่วมโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง ธปท. จึงขยายระยะเวลาการสมัครเข้าโครงการฯ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568 จากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อเพิ่มโอกาสที่ลูกหนี้จะได้รับความช่วยเหลือและสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติในระยะข้างหน้าเมื่อรายได้ฟื้นตัว
ล่าสุด ธปท. ร่วมกับกระทรวงการคลัง ธนาคารออมสิน และผู้ประกอบธุรกิจ Non-bank อื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยตามโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" เพิ่มเติม โดยผู้ประกอบธุรกิจ Non-bank จำนวน 2 ราย ที่มีคุณสมบัติและผ่านการพิจารณา ได้แก่ (1) บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) และ (2) บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) นั้น จะได้รับการสนับสนุน Soft loan จากธนาคารออมสิน เพื่อลดต้นทุนในการส่งผ่านความช่วยเหลือไปยังลูกหนี้ และ Non-bank ทั้งสองรายนี้ จะร่วมสนับสนุนเม็ดเงินในการช่วยเหลือลูกหนี้ด้วย โดยการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ในส่วนของ Non-bank
ลูกหนี้ของ Non-bank ทั้ง 2 รายข้างต้น ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการภายใต้โครงการ "คุณสู้ เราช่วย" สามารถศึกษารายละเอียดของมาตรการและสมัครเข้าร่วมได้ที่ https://www.bot.or.th/khunsoo ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 8.30 น. ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568 เวลา 23.59 น. หรือติดต่อสาขาของ Non-bank ที่เข้าร่วมมาตรการ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ BOT contact center ของ ธปท. โทร 1213 หรือ Call center ของผู้ประกอบธุรกิจ Non-bank ที่เข้าร่วมโครงการ
ขอบคุณข้อมูล ธนาคารแห่งประเทศไทย