รวบมือปาระเบิดปิงปองใส่โรงแรมดัง กลางเมืองประจวบฯ สารภาพโกรธเพื่อนที่ย้ายหนีออกจากบ้านเช่า ทำให้ไม่มีที่อยู่ เลยไปก่อเหตุที่โรงแรม ที่เพื่อนทำงานเป็น รปภ.
11 ก.พ. 68 พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบฯ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภาวริศ ชาลือ รอง ผกก.ฝ่ายปราบปราม พ.ต.ต.รณชัย จันทรปรุง สวป.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ นำตัว นายนพดล หรือต้น อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาในคดีใช้ระเบิดปิงปองปาใส่เพื่อนที่ทำงานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ รปภ.ของโรงแรมดังแห่งหนึ่งกลางเมืองประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ลูกค้าที่มาพักโรงแรมดังกล่าวตื่นตระหนกตกใจ หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป และทางเจ้าของโรงแรมได้เข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่หลังได้รับแจ้งได้แกะรอยติดตามจนพบตัวและสามารถจับกุมตัวได้พร้อมอาวุธปืนลูกซองสั้นเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก เมื่อช่วงกลางดึกวานนี้ (10 ก.พ. 68) ก่อนนำตัวมาควบคุมไว้ในห้องขังของโรงพักก่อนนำตัวขึ้นมาสอบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดย พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบ เปิดเผยว่า หลังจากทางตำรวจได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวขับขี่รถจักรยานยนต์ และทะเลาะวิวาทปาระเบิดปิงปองใส่กันที่บริเวณถนนเลียบชายทะเลด้านหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปราบปรามออกตรวจสอบแกะรอยหาตัวผู้กระทำผิดจนเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาพบว่าผู้ก่อเหตุได้ออกมาเล่นสนุกเกอร์ที่ร้านสนุกเกอร์แห่งหนึ่งจึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบจึงพบตัวพร้อมกับอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ไม่มีหมายเลขทะเบียนจำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนลูกซองขนาดเบอร์ 12 ปลอกสีขาวบรรจุอยู่ในรังเพลิงจำนวน 1 นัด เครื่องกระสุนปืนลูกซองขนาดเบอร์ 12 อีกจำนวน 8 นัด ปลอกสีแดงจำนวน 5 นัด ปลอกสีขาวจำนวน 2 นัด ปลอกสีเหลืองจำนวน 1 นัด และซองพกอาวุธปืนแบบหนังสีดำจำนวน 1 อัน จึงได้จับกุมตัวพร้อมอาวุธปืนมาควบคุมไว้ที่โรงพักเพื่อสอบสวนขยายผล
นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมตัวนายรังสิมันต์ หรือ เกม อายุ 24 ปี เพื่อนที่ร่วมเล่นสนุกเกอร์อยู่ด้วยกันพกพาอาวุธปืนลูกซองสั้นเบอร์ 20 แบบประดิษฐ์ขึ้นเองไม่มียี่ห้อไม่มีเลขทะเบียนจำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนลูกซองเบอร์ 20 บรรจุอยู่ในรังเพลิงจำนวน 1 นัด ซองพกหนังอ่อนสีดำจำนวน 1 อัน โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ พร้อมควบคุมตัวทั้ง 2 ราย รอส่งฟ้องศาลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนมูลของการก่อเหตุในครั้งนี้จากการสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุและคู่กรณีเป็นเพื่อนรักสนิทกันกินนอนอยู่ด้วยกัน แต่ผิดใจกันด้วยเหตุผลที่เพื่อนซึ่งเป็นคู่กรณีได้ย้ายบ้านหนี เนื่องจากมีเพื่อนไปมั่วสมอยู่ที่บ้านเช่าจำนวนมาก จึงได้พาแฟนย้ายบ้านหนีเป็นชนวนเหตุให้ผู้ก่อเหตุโกรธเคืองนำมาสู่การก่อเหตุแก้แค้นดังกล่าว
โดยทางด้านเจ้าของโรงแรม เปิดเผยว่า รปภ.ของโรงแรมคนดังกล่าวเป็นลูกจ้างของบริษัทยาม ซึ่งทางโรงแรมไม่ทราบมาก่อนว่ามีเรื่องกับใครมาหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ทางโรงแรมได้ขอเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่ รปภ.คนดังกล่าวแล้ว เพื่อความปลอดภัยและความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มาใช้บริการพักห้องของโรงแรม โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันเสาร์ที่ 8 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายนพดล ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ตนกับคู่อริเป็นเพื่อนรักกัน กินนอนอยู่ด้วยกันมานานหลายปี โดยเพื่อนคู่อริได้ไปเช่าบ้านพักอยู่กับแฟน ซึ่งตนได้ไปขออาศัยอยู่ด้วย โดยที่ตนเองเป็นคนจ่ายค่าอาหารเลี้ยงดูทุกอย่าง โดยในแก๊งของตนมีจำนวน 10 กว่าคน และที่ผ่านมาได้ผิดใจกับเพื่อนโดยถูกเพื่อนกล่าวหาว่าแอบไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงของเพื่อน แต่ตนไม่ได้ยุ่ง และถูกเพื่อนข่มขู่ว่าจะเอาปืนจ่อหัว ต่อมาเพื่อนกับแฟนได้แอบพากันย้ายบ้านหนีไปอยู่บ้านพ่อทำให้ตนไม่มีที่พัก จึงรู้สึกโกรธเคืองในหลายเรื่องจึงได้นำมาสู่การก่อเหตุในครั้งนี้ ตนรู้สึกผิดและอยากขอโทษเพื่อน และจะไม่คิดกลับไปคืนดีคบกันอีกต่อไป
