เช้านี้ที่หมอชิต - มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีมติให้ "นายโอชิ" ผู้ก่อเหตุร่วมกล้อนผมรุ่นน้อง พ้นสภาพนักศึกษา สำหรับผู้กระทำผิดคนอื่น ๆ มหาวิทยาลัยกำลังสอบสวน ก่อนพิจารณาโทษวินัยตามระเบียบและข้อบังคับฯ
ทาง "กัน จอมพลัง" งานนี้ก็ล้างบางแก๊งน้ำซุปไม่หยุด นำผู้เสียหายเข้าร้องเรียนต่อ รัฐมนตรี อว. คุณผึ้ง ศุภมาส อิศรภักดี ยกกรณีนี้เป็นตัวอย่าง ไม่ต้องการให้เกิดซ้ำ
ซึ่ง รัฐมนตรีผึ้ง บอกว่า จากนี้จะกำชับทุกมหาวิทยาลัย ถ้าพบการกระทำความผิด ไม่ว่าจะเล็กแค่ไหน หรือพบคนผิดแค่คนเดียว ก็ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ไม่ปล่อยผ่าน เพราะสถานศึกษาก็เหมือนบ้านอีกหลัง
ซึ่ง อว. จะเข้าไปกำกับดูแลอย่างจริงจัง ให้ทุกแห่งเป็นมหาวิทยาลัยสีขาวให้ได้ หากที่ไหนย่อหย่อนในการดูแลนักศึกษา อาจมีการคาดโทษ ก่อนพิจารณาสั่งปิด เพราะที่ผ่านมาก็เคยสั่งปิดมหาวิทยาลัยบางแห่งมาแล้ว
เมื่อพูดถึง พีม อีกหนึ่งเรื่องคือปมการทำธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า ถึงขั้นกลับมาเรียนปริญญาเพิ่มอีกใบในมหาวิทยาลัยเดิม
ซึ่งปัญหานี้เรียกว่าตำรวจขยายผลไว ตามที่คุณกันชี้เป้าว่า ตามไปรวมตัว "โปเต้" ผู้ร่วมหุ้นกับพีม ขายบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งก็เจอของกลางในคอนโดกว่า 300 ชิ้น และยังพบนำของกลางไปทิ้ง ซึ่งตำรวจก็จ่อจะแจ้งข้อหาเพิ่มแล้ว
มุมของครอบครัวพีม หลังผ่านมาเกือบ 5 วันแล้ว ทีมข่าว 7HD ไปที่บ้านย่าของนายพีม อายุ 75 ปี เปิดใจเล่าว่า ตอนนี้เครียดมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะเลี้ยงหลานมาตั้งแต่ 3 ขวบ ก็เสียใจกับพฤติกรรมหลาน แต่อยากให้หลานชดใช้กรรม
ซึ่งพีมตอนเด็กก็เรียบร้อย ไม่ก้าวร้าว แต่พอเข้ามหาวิทยาลัย หลานก็ไม่ค่อยกลับบ้าน และยังเคยบ่นเรื่องค่าเทอมที่ค้างไว้เกือบ 50,000 บาท และยังเล่าว่า เพื่อนที่มหาวิทยาลัยขอให้ช่วยขายบุหรี่ไฟฟ้า ก็เคยเตือนไปแล้วแต่หลานไม่เชื่อ ตอนนี้ยอมรับว่า ครอบครัวไม่กล้าสู้หน้าสังคม รู้สึกอับอาย เพราะพฤติกรรมของหลาน
ด้านเพื่อนบ้านก็ตกใจ ไม่คิดว่า พีม ที่คุ้นเคยจะก่อเหตุ ตลอดเวลาที่เห็นมาตั้งแต่เด็กดูไม่ก้าวร้าว แต่นิสัยอาจเปลี่ยนไปเพราะสังคมที่มหาวิทยาลัย
