ห้องข่าวภาคเที่ยง - หยิบเอาเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นอุทาหรณ์ มาเตือนกันหน่อยว่าแก๊งคอลเซนเตอร์ ยังคงออกอาละวาด และอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด อย่างกรณีของนักศึกษาสาวคนนี้ เธอตกเป็นเหยื่อเพราะรักพ่อ
เรื่องเริ่มจากที่พ่อของนักศึกษาสาว อายุ 21 ปี เข้าแจ้งความว่าลูกที่ปกติเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย แต่อยู่ ๆ กลับหายออกจากบ้าน พร้อมกับทองหนัก 4 บาท สงสัยว่าอาจถูกหลอกจากแก๊งคอลเซนเตอร์ เพราะลูกยังโทร.ไปขอยืมเงินเพื่อนอีก 50,000 บาทด้วย แต่ไม่ได้ แล้วไม่ว่าพ่อ แม่ หรือตำรวจ ก็ไม่มีใครติดต่อเหยื่อคนนี้ได้เลย โทร.ไปก็สายไม่ว่าง ๆ ตลอด
ตำรวจ สน.เพชรเกษม ก็เร่งแกะรอยจนเช้าไปเจอว่าเธอ เปิดห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งไว้ อยู่ที่ย่านบางแค จึงนำกำลังเข้าให้การช่วยเหลือได้ชนิดที่เรียกว่าทันฉิวเฉียด เพราะว่าเธอโหลดแอปฯ เตรียมจะโอนเงินไปให้มิจฉาชีพสำเร็จแล้ว แต่ที่พักของเธอมีปัญหาเรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตพอดี เธอเลยยังโอนเงินไม่ผ่าน
จากนั้น ตำรวจก็พาเธอมาส่งคืนอ้อมกอดครอบครัว ถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเล่าว่า มีผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ โทร.เข้ามาแจ้งเธอว่า ไปเปิดเบอร์โทรศัพท์ และพัวพันแก๊งพนันออนไลน์ ให้เธอเอารหัสธนาคารของพ่อไปให้ แต่ไม่สำเร็จ ก็เลยหลอกให้หาเงินมา 100,000 บาท ไม่งั้นจะดำเนินคดีกับพ่อของเธอ เลยต้องขโมยทองไปขาย แล้วก็ถูกหลอกให้ไปเปิดห้องพัก ห้ามติดต่อกับใคร ให้ติดตั้งแอปฯ เทรดเงินคริปโตฯ ซึ่งก็ทำตามมาทั้งหมด แต่ไม่ทันได้โอน เพราะตำรวจไปช่วยได้ทันพอดี
ผู้กำกับการ สน.เพชรเกษม บอกว่า ถือเป็นโชคดีที่ช่วยไว้ได้ทัน เรื่องทางคดีหลังจากนี้จะประสานตำรวจสืบสวนนครบาล 9 นำข้อมูลไปประสานกับตำรวจไซเบอร์ เพื่อขยายผลต่อ
ส่วนสถานการณ์แก๊งคอลเซนเตอร์ที่ จังหวัดตาก มีการข่าวมาจากทางฝั่งเมียนมา ว่า พลตรี หม่องชิตตู่ เลขาธิการกองกำลังพิทักษ์ชายแดน กองทัพกะเหรี่ยง ได้เริ่มกวาดล้างเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์มาได้พักหนึ่งแล้ว และมีข้อมูลว่า วันพรุ่งนี้ (15 ก.พ.) จะมีการปล่อยตัวเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์เพิ่มเติม
