จากเหตุรถยนต์พุ่งชนกลุ่มผู้ชุมนุมสหภาพแรงงานในนครมิวนิก ของเยอรมนี ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 30 คน พบผู้ก่อเหตุเป็นผู้อพยพ คาดอาจเป็นการ "โจมตี" เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วานนี้ (13 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยคนขับรถยนต์พุ่งชนกลุ่มสมาชิกสหภาพแรงงาน ที่รวมตัวประท้วงอยู่บริเวณถนนไซเดิล (Siedl Strasse) ในนครมิวนิก ของเยอรมนี ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 30 คน ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัสหลายราย ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า รถยนต์สีขาวคันหนึ่งขับเข้ามาใกล้รถตำรวจ ก่อนจะเร่งความเร็วและพุ่งชนผู้คน ทำให้เจ้าหน้าที่ยิงปืนเข้าใส่ผู้ก่อเหตุ 1 นัด และควบคุมคนขับรถไว้ได้ จากการตรวจสอบ คนร้ายคือ นายฟาร์ฮัด นูรี (Farhad Noori) อายุ 24 ปี ชาวอัฟกานิสถาน ที่พยายามยื่นขอลี้ภัยแต่ถูกปฏิเสธ ซึ่งเขาได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในเยอรมนีได้ชั่วคราว นอกจากนี้ เขายังมีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด และลักขโมยด้วย
ด้าน นายมาร์คัส โซเดอร์ (Markus Soeder) ผู้นำรัฐบาวาเรีย กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ "อาจเป็นการโจมตี" แต่ยังไม่ทราบแรงจูงใจที่แน่ชัด
สำหรับจุดเกิดเหตุ อยู่ห่างจากสถานที่จัดการประชุมด้านความมั่นคงระดับสูง เพียง 1.5 กิโลเมตร ซึ่งรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ (JD Vance) ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelenskiy) ของยูเครน จะเข้าร่วมประชุมในวันนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม การประชุมดังกล่าวจะยังคงเดินหน้าต่อไป พร้อมกับมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงกว่า 5,000 นาย เข้าดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ทั่วทั้งรัฐบาวาเรีย
