ให้ออกจากราชการแล้ว จ.ส.ต.ใช้รถตำรวจขนบุหรี่เถื่อน พบเจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้ เคยมีพฤติการณ์กระทำผิดเดียวกันมาแล้ว สมัยที่ยังรับราชการอยู่ที่ สภ.คลองใหญ่ และถูกดำเนินการทางการปกครองจาก สภ.คลองใหญ่ ย้ายตัวไปอยู่ภาค 2 แต่ยังทำอีก
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ ส.ต.อ. นำรถตราโล่ของสำนักงานตำรวจภาค 2 ขนบุหรี่ผิดกฎหมายแล้วเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนเสาไฟฟ้า จนได้รับบาดเจ็บและพบมีการขนบุหรี่เถื่อนใส่มาในรถคันดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อค่ำของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา
17 กุมภาพันธ์ 2568 ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.มนตรี จินะ ผกก.สภ.บ้านท่าเลื่อน อ.เมือง จ.ตราด กล่าวว่า เบื้องต้น วันนี้คำสั่งให้ออกจากราชการแล้ว ส่วนเรื่องคดีนั้นถูกดำเนินคดีทำผิด พรบ.สรรพสามิตร และ ศุลกากร ซึ่งผู้กระทำผิดขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตราด ทางร้อยเวรเจ้าของคดีจะเดินทางไปรับตัวพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้รับทราบ
“เจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้เคยมีพฤติการณ์กระทำผิดเดียวกันมาแล้ว สมัยที่ยังรับราชการอยู่ที่ สภ.คลองใหญ่ ถูกดำเนินการทางการปกครองจาก สภ.คลองใหญ่ ย้ายตัวไปอยู่ภาค 2 แต่เจ้าหน้าที่คนนี้มีครอบครัวและชื่อยู่ อ.คลองใหญ่ ประกอบกับเมื่อวานนี้มีการเลือกตั้งนายก อบต. และเลือกตั้งซ่อม ส.อบต.คลองใหญ่ คงจะเดินทางมาใช้สิทธิ์และถือโอกาสหิ้วบุหรี่ติดมือกลับไปด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจกับคดีนี้และจะไม่มีการ ให้ความช่วยเหลือในฐานะข้าราชการตำรวจเหมือนกัน”
ล่าสุด เวลา 10.20 น. พล.ต.ต. ชูเกียรติ ภูกาบพลอย ผบก.ภจว.ตราด ได้เดินทางมาที่ สภ.บ้านท่าเลื่อนเพื่อติดตามคดีอย่างใกล้ชิด
ด้านตำรวจภูธรภาค 2 ออก Press Release เมื่อเช้านี้ ผ่านสังคมออนไลน์ พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 กล่าวถึงกรณี รถตราโล่ ติดสติกเกอร์ ภ.2 ประสบอุบัติเหตุและพบว่าภายในรถมีบุหรี่ไม่มีอากรแสตมป์จำนวนหนึ่ง โดยพบว่ามี ส.ต.อ.เอกพจน์ ผู้บังคับหมู่ ฝ่ายอำนวยการ 3 กองบังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค 2 เป็นผู้ขับขี่ เหตุเกิดในพื้นที่ จว.ตราด ช่วงเย็นวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ว่า ส.ต.อ.เอกพจน์ ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เบื้องต้นสาเหตุอุบัติเหตุคาดว่าหลับใน โดยพบบุหรี่ไม่มีอากรแสตมป์จำนวนมากในรถจริง อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดที่มาของบุหรี่ดังกล่าว เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นบุหรี่ลักลอบไม่เสียภาษีสรรพสามิต จึงให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาโดยด่วนต่อไป รวมถึงการใช้รถของราชการ หากเป็นความผิดทางอาญาเข้าข้อกฎหมายใดจะดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด และในทางปกครองตนมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และมีคำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อน
“จะไม่ยอมให้ตำรวจที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมทำผิดเสียเองมีที่ยืนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหากเจตนาใช้รถของทางราชการเพื่ออำพรางให้สะดวกในการก่อเหตุทำผิดกฎหมายยิ่งเป็นสิ่งที่ผิด ไม่มีการละเว้นช่วยเหลือแน่นอน หากเป็นนิ้วร้ายก็ต้องตัดทิ้ง“ ผบช.ภ.2 กล่าว