ห้องข่าวภาคเที่ยง - ชีวิตครูปรีชา ตอนนี้ คงจะวนเวียนขึ้นโรงพักขึ้นศาล ไม่จบสิ้นเสียที ตั้งแต่ลอตเตอรี่อลเวง 30 ล้านบาทแล้ว ก็มีเรื่องใหม่เข้ามาอีกไม่หยุดหย่อน หลังเช่าบ้านเปิดร้านอาหาร จนมาถูกผู้ให้เช่า แฉพฤติกรรมแจ้งเอาผิดอีก
สภาพของร้านอาหารบ้านสวนครูปรีชา บนพื้นที่ 2 ไร่เศษ ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี ที่ครูปรีชา ใคร่ครวญ ทำสัญญาเช่ากับนางพิมลวรรณ กลั่นผลหรั่ง อายุ 57 ปี ตอนนี้ปิดตัวไปแล้ว เนื่องจากสัญญาเช่าหมดอายุลงในเดือนกุมภาพันธ์ 2568
โดยเธอได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปดูร่องรอยความเสียหายภายในตัวบ้าน พังเละเทะไม่มีชิ้นดี ผนังกำแพงในบ้านถูกเจาะเป็นรูไปทั่วทั้งหลัง สภาพห้องครัวก็อยู่ในสภาพสกปรก คล้ายกับไม่เคยทำความสะอาด ที่ดูดควันทรัพย์สินเดิมที่อยู่ในบ้านหายเกลี้ยง พื้นที่รอบตัวบ้านถูกขุดเป็นหลุมเป็นบ่อไม่ฝั่งกลบ ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม ทำให้เธอถึงกับตัดพ้อ เห็นว่าครูปรีชาเป็นเพื่อนเก่า ไม่น่าทำกับเพื่อนได้ พยายามติดต่อขอเคลียร์ แต่ไม่เป็นผลจึงต้องเข้าแจ้งความ และบ้านหลังนี้ยังถูกค้างค่าเช่าอีก 1 เดือน รวมถึงยังค้างค่าไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอีก 2 เดือน รวมเป็นจำนวนเงินกว่า 4,000 บาท จนถูกตัดไฟไปในที่สุด
ครูปรีชา ชี้แจงว่า ไม่อยู่ในพื้นที่เนื่องจากกำลังเดินทางไปติดต่อธุระที่กรุงเทพฯ จึงสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว ทางครูปรีชายอมรับว่า ได้มีการเช่าบ้านหลังกับนางพิมลวรรณ จริง แต่ไม่ได้ขโมยเอาทรัพย์สินไป อีกทั้งในสัญญาเช่าบ้าน ก็ไม่ได้ระบุไว้ว่า เก็บรักษาทรัพย์สินรายการใด ๆ หรือไม่ หากมีการแจ้งเอาผิดก็พร้อมขึ้นศาลและจะฟ้องกลับด้วย
อย่างที่บอกครูก็ยังต้องวนเวียนขึ้นโรงพัก ขึ้นศาล เพื่อต่อสู้ ต่อไปอีก หากไม่พูดคุยเจรจากันหาทางลงจบด้วยดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย