ข่าวภาคค่ำ - แหล่งอาชญากรรมแก๊งคอลเซนเตอร์ ริมแม่น้ำเมย เมืองเมียวดี ของเมียนมา มีคนจากทั่วโลกนับหมื่น ทั้งถูกหลอก และเต็มใจไปทำงานที่นั่น เพราะอะไรถึงต้องใช้เส้นทางผ่าน จังหวัดตาก ไปหาคำตอบนี้กับ คุณพิธพงษ์ จตุรพิธพร
ผมและทีมงานตามหาคำตอบเรื่องการเดินทางเข้า-ออก ผ่านจังหวัดตาก ของคนที่หลงกลไปทำงานให้แก๊งคอลเซนเตอร์มานานกว่า 1 สัปดาห์ ได้เห็นวิถีชีวิตของคนริมแม่น้ำเมย และจุดบอดสำคัญกับคำว่า "ช่องทางทางธรรมชาติ" และตลอดแนวแม่น้ำเมยที่ไหลผ่าน อำเภอพบพระ อำเภอแม่สอด ไปจนถึง อำเภอแม่ระมาด มีท่าข้าม 51 จุด
เราสำรวจเจอรั้วลวดหนามเพียงส่วนน้อยขึ้นสนิม แทบไร้พิษภัย เมื่อเทียบกับรั้วลวดหนามกำแพงเมืองทุนสีเทา "KK Park" ที่งองุ้มเข้าไปด้านในฝั่งเมียนมา ป้องกันคนหลบหนีออกมา มีกำลังคนถือปืนเดินลาดตระเวน ซึ่งดูน่ากลัวมากกว่าฝั่งของไทย
ลำน้ำจุดที่เราลงมาสำรวจในอำเภอแม่ระมาด ตรงข้ามเมืองชเวโก๊กโก เมื่อเข้าสู่หน้าแล้ง กว้างไม่เกิน 10 เมตร น้ำตื้นแค่เอว พอเดินลุยได้ บนฝั่งเราพบกล่องโฟมแตก ภายในมีบุหรี่เถื่อนเปียกน้ำ โยนทิ้งไว้หลายคอตตอน ทั้งยังมีรอยทางเดินเท้าจากลำน้ำขึ้นมาบนฝั่ง นี่อาจเป็นได้ทั้งช่องทางขนสินค้าหนีภาษี และทางผ่านของแก๊งคอลเซนเตอร์
ระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจ จะเห็นได้ชัดว่า ท่าข้ามริมเมย ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราประจำจุด ในการขนสินค้าอุปโภค-บริโภค จะมีเพียงคนงานที่ช่วยขนกันเอง ซึ่งเป็นจุดสำคัญให้มีการลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย ทั้งกลางวัน และกลางคืน
ช่องโหว่ต่อมา คือ กฎหมายที่ไม่สามารถบังคับใช้ ห้ามชาวต่างชาติไปฝั่งเมียนมา อย่างดีก็ทำได้แค่เกลี้ยกล่อมให้เห็นว่า จุดที่กำลังจะเข้าไปนั้นเสี่ยงอันตราย ซึ่งมีทั้งคนที่ยอมรับฟัง และพวกหัวดื้อไม่สนใจคำเตือน
ช่องโหว่สุดท้าย คือ เจ้าหน้าที่สีเทา ที่ยอมหลับหูหลับตาแลกเศษเงิน กับการเปิดช่องให้ส่งเหยื่อใหม่ ๆ เข้าไปก่อกรรมทำเข็ญ จนทำให้จังหวัดตากของไทย กลายเป็นประตูเปิดเข้าไปสู่ขุมนรกคอลเซนเตอร์
คำรับสารภาพของ หัวหน้าแก๊งคอลเซนเตอร์ ยิ่งย้ำชัดว่ากำลังย้ายฐานไปหาที่ตั้งใหม่ใน เมืองปอยเปต ของกัมพูชา ในขณะที่แหล่งอาชญากรรม ริมแม่น้ำเมย เมืองเมียวดี ยังมีกลุ่มทุนเทาคอยหนุนหลัง ได้รับการปกป้องโดยกองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยง จนเป็นคำถามตัวโต ๆ ว่า รัฐบาลไทยจะอุดช่องโหว่นี้ได้อย่างไร