ดีเอสไอแจ้งผลสืบสวนพบมูลส่อฮั้วเลือก สว. ราคาค่าตอบแทน โพยฮั้ว 2 ชุด จ่อรับสอบสวนเป็นคดีพิเศษ ขณะที่ กกต. ตอบกลับ “ยังไม่ปรากฎว่ารับเป็นคดีพิเศษแล้วหรือไม่” จึงยังไม่เสนอกรรมการ กกต. ให้พิจารณาตาม ม.49
ฮั้วเลือก สว. วันนี้ (21 ก.พ.68) มีรายงานว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับหนังสือตอบกลับจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หลังดีเอสไอแจ้งผลสืบสวนกรณีตัวแทนผู้สมัคร สว. รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือต่ออธิบดีดีเอสไอ ขอให้ดีเอสไอรับสอบสวนคดีการฮั้วเลือก สว. ปี 2567 ซึ่งดีเอสไอสืบสวนได้ข้อมูลหลักฐาน ว่าการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พรป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 ฐานอั้งยี่ และความผิดฐานฟอกเงิน
ทั้งนี้ ดีเอสไอได้แจ้งต่อ กกต.ว่า การสืบสวนพบการกระทำความผิด พร้อมสอบถามว่า กกต. ทราบเรื่องแล้ว จะรับไปดำเนินการตามมาตรา 49 หรือจะให้ดีเอสไอรับไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษ ขณะที่ กกต. ได้แจ้งเป็นหนังสือตอบกลับมาว่า กรณีดังกล่าวยังไม่ปรากฎว่า ดีเอสไอมีการรับเป็นคดีพิเศษแล้วหรือไม่ จึงยังไม่เสนอเรื่องให้คณะกรรมการ กกต. พิจารณาตามมาตรา 49
สำหรับเนื้อหาในหนังสือลับด่วนที่สุด ซึ่งดีเอสไอแจ้งไปยัง กกต. ระบุว่า การสืบสวนปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีขบวนการจัดตั้งให้ได้มาซึ่ง สว. มีการวางแผนให้มีผู้สมัครระดับอำเภอ กลุ่มละ 5 คน รวม 100 คน ในระดับอำเภอ 928 อำเภอ ค่าตอบแทนระดับอำเภอ 5,000 บาท ระดับจังหวัด 10,000 บาท ระดับประเทศ 4 หมื่นถึง 1 แสนบาท และถ้าได้ สว.มากกว่า 120 คน จะได้เพิ่มจำนวน 100,000 บาท
หลังจากวันที่ 16 มิ.ย.67 ภายหลังผ่านการคัดเลือกระดับจังหวัด ขบวนการได้นัดหมายผู้สมัครระดับประเทศ ไปจัดทำโพยฮั้ว สว. ในพื้นที่ 3 จังหวัด มีการจ่ายมัดจำ 2 หมื่นบาท ส่วนที่เหลือจะได้รับหลังการรับรองผลการสืบสวนยังพบโพยฮั้ว สว. มีหมายเลข จำนวน 2 ชุด กลุ่มละ 7 คน รวม 140 คน โดยพบผู้สมัครอยู่ในขบวนการประมาณ 1,200 คน สำหรับโพยฮั้ว 2 ชุด พบว่าเป็นผู้ได้รับเลือก 138 คน และอยู่ในลำดับสำรอง 2 คน
ดีเอสไอประสงค์ที่จะรับดำเนินการสอบสวนในส่วนที่พบการกระทำผิดทางอาญาไว้ดำเนินการ เนื่องจากกลุ่มขบวนการมีการวางแผนที่สลับซับซ้อน กระทำการอุกอาจมิได้เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ยังไม่ได้พิสูจน์ทราบอีกจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้วิธีการรวบรวมหลักฐานเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบร่องรอยการติดต่อสื่อสาร เส้นทางการเงิน สถานที่จัดประชุม วางแผน สถานที่พบปะติดต่อ พิสูจน์ทราบกลุ่มบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอที ที่เข้ามาร่วมสนับสนุนการ กระทำความผิดของกลุ่มขบวนการ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความพร้อมด้านบุคลากร และเครื่องมือทางด้าน เทคโนโลยีที่จะใช้ในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ทราบเครือข่าย และองคาพยพของกลุ่มขบวนการทั้งหมด นอกจากนี้ พยานสำคัญอาจจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการให้ความคุ้มครองพยาน เพราะเหตุที่พยาน อาจเกรงกลัวต่ออันตรายแก่ชีวิตร่างกาย