รวบยกก๊วน! กระบะซิ่งแหกด่านตรวจที่ อ.สบปราบ จ.ลำปาง แต่ไม่ไม่รอด ยึดยาบ้าได้กว่า 3 ล้านเม็ด สารภาพเตรียมส่งในพื้นที่ ภาคกลาง
ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณด่านตรวจสบปราบ จ.ลำปาง สามารถบันทึกนาทีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำด่านตรวจกำลังปฎิบัติหน้าที่ตั้งด่านสกัดตรวจค้นของผิดกฏหมาย ต่อมาได้มีรถกระบะอีซูซุ สีบอร์น หมายเลขทะเบียน ผข 4409 เชียงราย และรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไททัน สีขาว หมายเลขทะเบียน ผค 2453 เชียงราย ลักษณะตรงตามที่สายรายงาน
ทางเจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น พบนายอาจู ,นายจีระวัฒน์ ,นายไกรสร, นายอาเคอะ ,นายนวพล และนายปรีชา ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ขอตรวจค้น รถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องแหกด่านหลบหนีไป แต่ทางตำรวจติดตามสกัดจับไว้ได้ในเวลาต่อมา ตรวจค้นในรถพบยาบ้าจำนวน 13 กระสอบ ประมาณ 3,176,046 เม็ด สามรถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 6 คน
จากการสอบสวนทั้งหมดได้รับสารภาพว่ารับค่าจ้างจากนายทุนคนละ 20,000 บาทในการลอบลำเลียงยาบ้าชุดนี้ลงไปยังพื้นที่ภาคกลาง
โดยวันนี้ (24 ก.พ. 68) ที่กองบังคบการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิชญา บุญขจร รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5และเจ้าหน้าที่ทหาร ปกครอง ปปส.ภาค5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำมาร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม 6 คดีสำคัญในพื้นที่ จ.เชียงใหม่และจ.ลำปาง รวมถึงพื้นที่ จ.เชียงราย โดยมีคดีจับยาเสพติดรายสำคัญ 2 คดี ,จับกุมพนันออนไลน์ ,จับกุมกลุ่มปล่อยเงินกู้ทวงหนี้ ในพื้นที่ อ.สารภี ,คดีวัยรุ่นปาระเบิดในปั๊มน้ำมัน
ส่วนในคดีที่สองเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ช้างเผือก ได้จับกุมตัวนายราชันย์ อายุ 42 ปี ชาว อ.แม่แตง พร้อมของกลางยาบ้า 1,000 เม็ด จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรีบสารภาพว่ารับยามาขายรายย่อยในชุมชน ทางตำรวจจึงขยายผลไป อ.แม่แตง สามารถขยายผลจับกุมตัวนายธีรวัฒน์ อายุ 25 ปี ชาวแม่แตง ,นายวีระพล อายุ 36 ปี ชาว จ.ลำพูน ,นายอนุวัฒน์ อายุ 30 ปี ชาว จ.ลำพูน ,นายเจษฏา อายุ 42 ปี ชาว จ.ลำพูน ,นายอัจถพงษ์ อายุ 37 ปี ชาว จ.ลำพูน พร้อมยาบ้า 200,000 เม็ด ซึ่งทั้งหมดเป็นพ่อค้ายาที่คอยกระจายยารายย่อยในชุมชนในหลากหลายพื้นที่ใน จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ ทางด้านผบช.ภาค 5 ได้สรุปผลการจับกุมยาเสพติด ของ ตำรวจภูธรภาค 5 ห้วงตั้งแต่ 1 ต.ค. 67-23 ก.พ. 68 ได้จับกุมคดียาเสพติดจำนวน 9,065 คดี คดียาเสพติดรายสำคัญ 44 คดี ตรวจยึดของกลางยาเสพติด
- ยาบ้า 33 ล้านเม็ดเศษ - ไอซ์ 1,863 กิโลกรัมเศษ - เฮโรอีน 143 กิโลกรัมเศษ - เคตามีน 802 กิโลกรัมเศษ
- ฝิ่น 8.9 กิโลกรัมเศษ และตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด - มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 289 ล้านบาทเศษ
นอกจากนี้ ยังได้แถลงผลการจับกุมคดีอาชญากรรมในพื้นที่อีก 4 คดี โดยในคดีนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อวัน และทำการทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ลูกหนี้ จนชาวบ้านใกล้เคียงหวาดกลัว ล่าสุดสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 2 คน และแจ้งข้อหาเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา
ส่วนคดีเหตุวัตถุเกิดการระเบิด ภายในปั๊มน้ำมัน ย่านถนนห้วยแก้ว จ.เชียงใหม่ ทราบตัวผู้ก่อเหตุ ชื่อ นายพีม เป็นนักศึกษาชั้นปี ที่ 2 ซึ่งเป็นแก๊งของ นายพีท ที่ทางตำรวจภูธรภาค 5 ได้เคยทำการสลายและคาดโทษไปแล้ว
คดีที่การรับจ้างเปิดและกดเงินบัญชีม้านำไปหลอกลวงผู้เสียหายทั่วประเทศ รวม 93 คดี และส่งบอสฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา โดยพบว่ามีการถอนเงินผ่านตู้ ATM ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่เป็นจำนวนมาก มีเงินหมุนเวียนกว่า 24 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหาได้ 6 คน แจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอม
คดีการจับกุมเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งมีฐานการผลิตอยู่ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยมีผู้เล่นทั่วประเทศ เงินหมุนเวียนเดือนละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
ขณะเดียวกันทาง พล.ต.ต.พิชญา บุญขจร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ปัญหาชาวอิสราเอลในพื้นที่อำเภอปาย โดยหลังจากที่ได้เดินทางลงพื้นที่ติดดามสถานการณ์ พบกลุ่มอิสราเอลเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ไม่ได้มีจำนวนมากตามที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ โดยเป็นกลุ่มวันรุ่นที่อยู่ในช่วงคึกคะนอง ซึ่งได้มีการปราบปรามเรื่องพฤติกรรมที่ก่อความเดือดร้อนรำคาญไปแล้ว