“ทวี” ปัดใช้อำนาจเชิญ กกต. แค่ขอความร่วมมือ มา-ไม่มาก็ได้ ชี้ กคพ.ไม่มีใครโต้แย้งเรื่องพยานหลักฐาน ย้ำพร้อมเดินหน้าต่อ คดีฮั้วเลือกสว.
วันนี้ (26 ก.พ.68) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกระแสข่าวคณะกรรมการการเลือกตั้ง สงสัย ว่า คณะกรรมการคดีพิเศษ ใช้กฎหมายหรืออำนาจใดในการเชิญ กกต. ไปชี้แจงว่า เป็นเรื่องของการประสานงาน โดยประชุมมีการพูดถึงการตอบหนังสือของเลขาธิการ กกต. ซึ่งมีความไม่ชัดเจน จึงอยากให้ กกต. มาตอบคำถาม และการประชุมวันนี้ได้เปิดโอกาสให้ทุกคนได้พูดซึ่งวันนี้คณะกรรมการได้พูดทุกคน และจัดการได้พูดก็ยังคงมีคำถามว่า ทำไมเรื่องดังกล่าวอยู่มานานนักหลังจากได้เห็นหลักฐานบางส่วน จึงอยากจะถาม กกต. เพราะกฎหมายของกกต. ก็มีบุคคลที่มีความรู้หลายคน ไม่ว่าจะเป็นเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา นายกสภาทนายความฯ และอัยการ ซึ่งก็เกือบจะได้ข้อยุติ แต่เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ และเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการเมือง เนื่องจากคณะกรรมการต้องการให้การพิจารณาชอบด้วยกฎหมาย ชอบด้วยเหตุผล และให้ความเป็นธรรมกับทุกคน จึงอยากจะประสานงานให้ กกต. เข้ามาชี้แจง จะมาก็ได้หรือไม่มาก็ได้ โดยเป็นการขอความร่วมมือไม่ใช่เป็นการใช้อำนาจ เพราะเราให้เกียรติกัน เนื่องจากมีการอภิปรายกันเรื่องกฎหมายของกกต. ในประเด็นเกี่ยวกับการกำหนดโทษ ซึ่ง กกต.ดำเนินการได้แค่ 6 ฉบับ เช่น พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสส.และสว. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง หรือการเลือกตั้งท้องถิ่น รวมไปถึงกฎหมายประชามติ ซึ่งบทกำหนดโทษของกกต. ก็จะเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว ส่วนความผิดทางอาญา เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เริ่มต้นจากกกต. ตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้ามาเป็นคณะทำงานตั้งแต่แรก ตอนรับรอง สว.
ส่วนจะเป็นการเชิญเลขาธิการกกต. หรือเชิญกรรมการกกต. พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ดีเอสไอประสานงาน ซึ่งอาจจะต้องไปประสานงานกับ กกต. เพราะเลขาธิการกกต.ระบุว่า เรื่องยังไม่ได้ส่งให้คณะกรรมการกกต. ซึ่งแล้วแต่มติกกต.ว่าจะส่งใครมา
เมื่อถามว่า หากกกต. ไม่มาจะสามารถดำเนินการต่อได้หรือไม่ พันตำรวจเอก ทวี ยืนยันว่า เดินหน้าได้ เพราะที่ประชุมต้องการให้สิ้นข้อสงสัยแค่นั้น ซึ่งวันนี้เป็นการประชุมที่ดี เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่รับไว้สอบสวนแค่นั้นเอง แต่ถ้ารับไว้สอบสวนเมื่อไหร่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และต้องไม่มีเรื่องทางการเมือง ขณะนี้ยังมีฐานความผิดฐาน เช่น งบประมาณในการเลือกตั้งและการได้มาซึ่งสว. ที่ใช้งบประมาณกว่า 1 พันล้านบาท ก็อาจจะเข้าเหตุผลในการเป็นคดีพิเศษก็ได้ ซึ่งต้องมาพิจารณากันอีกที
เมื่อถามว่า วงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กันหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พรรคร่วมเราจะมีแต่ความสามัคคี ส่วนเรื่องคดีก็ขอให้เป็นเรื่องของคดีไป
ส่วนทาง สว. ระบุว่า การเชิญกกต.อาจจะเป็นการแทรกแซง องค์กรอิสระ พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า เป็นการประสานงาน กระบวนการยุติธรรมก็มีการประสานงานกัน ไม่ได้เป็นการกดดัน กกต. เราจะได้เลือกว่า เมื่อถึงเวลานั้น จะเป็นคดีพิเศษเฉพาะคดีอาญา หรือถ้าเป็นคดีที่กกต.ขอให้ทำ ก็จะถือเรื่องนั้นด้วย เพราะเท่าที่ดูในพื้นฐานแล้ว กฎหมาย กกต. มาตรา 4 จะชัดเจนว่า ความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และพรรคการเมือง หมายถึงความผิดพ.ร.บ.อะไรบ้าง ส่วนความผิดอาญาอื่น กกต. จะต่างจาก ป.ป.ช.
เมื่อถามว่า คดีนี้ต้องหาคนผิดให้ได้ใช่หรือไม่ พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า เราต้องทำให้สุด
ส่วนการเลื่อนครั้งนี้ อาจจะรอสัญญาณการดีลกัน พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า ไม่มีการดีลเพียงแต่ว่าผู้ทรงคุณวุฒิมาเจอกันครั้งแรก ส่วนใหญ่จะมีคำถาม ทางผู้สืบสวน ก็ได้แสดงพยานหลักฐาน พอหลักฐานค่อนข้างเยอะ ก็สงสัยว่าตอนนี้กกต.ทำแล้วหรือยัง ในที่ประชุมถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นอาจารย์จากจุฬาฯ กับอดีตอัยการ ก็ระบุว่าน่าจะให้กกต.มาตอบคำถาม ไม่เช่นนั้น ก็จะเป็นการพูดข้างเดียว เหมือนกับเป็นการพาดพิง
เมื่อถามว่า พอจะเห็นปลายทางหรือไม่ ว่ามีโอกาสสูงที่จะรับเป็นคดีพิเศษ จากการที่เราเชิญกกต.มา พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า เราต้องเคารพดุลพินิจของคณะกรรมการ ซึ่งวันนี้ก็ไม่มีใครโต้แย้งพยานหลักฐาน เพียงแต่ว่า เราดูเรื่องของความชอบให้รอบคอบ