ผู้นำศาสนายูดาห์ใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เสียใจคนเข้าใจผิด ยืนยัน “ปาย” เป็นของไทย ไม่มีใครเข้าไปยึดครอง นักท่องเที่ยอิสราเอลแค่ 40-50 คน ไม่ใช่ 30,000คน
สืบเนื่องจากกระแสข่าว นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลเข้ามาตั้งถิ่นฐาน และ ก่อความวุ่นวาย ใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
ล่าสุด (26ก.พ.68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่โบสถ์ชาบัดใน อ.ปาย ซึ่งเป็นสถานที่ทำกิจกรรมทางศาสนาของชาวอิสราเอล เพื่อติดตามและตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดยมีนางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย พร้อมด้วย นายนาเฮ็มยา วิลเฮ็ม ผู้นำศาสนายูดาห์ในชุมชน ให้การต้อนรับ พร้อมนำชมสถานที่ และอธิบายถึงกิจกรรมทางศาสนา
ทั้งนี้ ผู้นำศาสนายูดาห์ในชุมชน ให้ข้อมูลว่า มูลนิธิแห่งนี้มีการตั้งขึ้นมา เพราะต้องการเผยแพร่ศาสนา โดยจะมีการรวมตัวกันในทุกวันศุกร์ เพื่อสวดมนต์ ทานอาหารท้องถิ่น และ ยืนยันว่า ไม่ได้มีการปิดประตูห้ามคนไทยเข้า เพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ปลอดภัย ทุกคนสามารถเข้ามาได้ แต่จะห้ามสูบบุหรี่ ส่วนในช่วงประกอบพิธีทางศาสนา จะเริ่มตั้งแต่เช้าวันศุกร์จนถึงเย็นวันเสาร์ โดยตลอดทั้งวันจะร่วมกันสวดมนต์ และกินข้าว
ที่ผ่านมาไม่เคยมีการร้องเรียน เรื่องสวดมนต์เสียงดังเลย ส่วนที่เคยมีข่าวออกไปว่า มีคนมาเยือนโบสถ์แห่งนี้ถึง 30,000 คนนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากที่ปายมีนักท่องเที่ยวอิสราเอลมาประมาณ 40-50 คน เมื่อเห็นข่าวที่ออกไปจึงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะคนอิสราเอลเป็นคนดี และชอบคนไทยมาก เวลาทุกคนมาที่นี่ ก็จะช่วยพูดคุยให้เคารพสถานที่ วัฒนธรรม และ ประเพณีของคนไทยด้วย
ส่วนกระแสข่าวมีชาวอิสราเอลเข้ามายึด อ.ปาย โดยอ้างว่าเป็นดินแดนพันธะสัญญานั้น นายนาเฮ็มยา ยืนยันว่า ไม่มีใครคิดแบบนั้น เพราะประเทศอิสราเอล ก็เป็นของคนอิสราเอล และ ประเทศไทยก็เป็นของคนไทย
