เขตสาทรลุยตรวจ จุดซ่อนกล่องเก็บกุญแจ ปมทุนจีนปล่อยเช่าคอนโดเป็นห้องพักรายวัน เจอซ่อนข้างอู่ซ่อมรถ 103 เครื่อง เจ้าของอู่เผยไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย รับค่าตอบแทนเดือนละ 1 หมื่น
นายทุนจีน ที่กว้านซื้อห้องพักตามคอนโดมิเนียมหรูย่านสุขุมวิท เพื่อเปิดบริการเป็นห้องเช่ารายวัน ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าพัก โดยมีวิธีการนำคีย์การ์ดและกุญแจห้องพักใส่ลงในกล่องเก็บลูกกุญแจแบบตั้งรหัสผ่าน ก่อนนำไปวางอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ ใกล้กับคอนโดฯ ซึ่งเป็นวิธีการเลี่ยงบาลีเพื่อไม่ให้ผิดกฏหมาย
ทีมข่าว CH7HD ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 48/2 เขตคลองเตย หนึ่งในจุดที่พบเบาะแสว่ามีการนำกล่องเก็บกุญแจมาติดตั้งไว้ เมื่อไปถึงพบเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ แต่ไม่พบกล่องเก็บลูกกุญแจแบบตั้งรหัส สอบถามพนักงานในร้าน ให้ข้อมูลว่า หลังเป็นข่าวแค่วันเดียว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านก็ไม่เห็นกล่องเก็บกุญแจแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนมาเอาออกไป เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว บริเวณหน้าร้านถูกนำมาติดตั้งไว้ทั้งหมด 8 กล่อง แต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แวะเวียนกันมาปลดล็อกรหัสที่กล่องเพื่อนำคีย์การ์ดออกไป อีกทั้งยังเคยเห็นกลุ่มวัยรุ่นนักศึกษามาเอาคีย์การ์ดที่กล่องด้วย
“ก่อนหน้านั้นไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะเป็นเรื่องผิดกฏหมายทุกคนในร้านจึงปล่อยผ่านไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งมาทราบข่าว ซึ่งหากรู้ว่าจะเป็นเรื่องผิดกฏหมายตั้งแต่แรก ก็คงไม่ให้นำมาติดตั้งที่ร้านแน่ ๆ ยืนยันว่าที่ร้านไม่เคยรับส่วยหรือผลประโยชน์ จากผู้ที่นำมาติดตั้ง”
ต่อมา ทีมข่าวลงพื้นที่ไปจุดที่ 2 บริเวณอู่ซ่อมรถยนต์ใกล้คอนโดฯ ย่านสาทร เมื่อไปถึงพบชายชาวไทย 1 คน กำลังก้มหน้าใส่รหัสที่กล่องเพื่อรับคีย์การ์ด ทีมข่าวเข้าไปสอบถาม ทราบว่าชายคนดังกล่าว ได้จองเข้าพักที่คอนโดฯ เป็นเวลา 30 วัน ผ่านแอปพลิเคชัน โดยในแอปฯ แสดงชื่อเจ้าของห้องเป็นชาวอาหรับ
ภายในอู่ซ่อมรถมีตู้เหล็ก 2 ตู้ ตั้งอยู่ที่หน้าร้าน ภายในตู้พบกล่องเก็บคีย์การ์ดและกุญแจแบบตั้งรหัสผ่าน จำนวน 103 กล่อง ซึ่งแต่ละกล่องจะมีตัวเลขติดกำกับไว้นายจิน (นามสมุมติ) อายุ 59 ปี เจ้าของอู่ ให้ข้อมูลว่า เมื่อปีที่แล้วมีชายคนหนึ่งเข้ามาติดต่อขอวางตู้เหล็ก 2 ใบ โดยบอกรายละเอียดเพียงแค่ว่าเดี๋ยวจะมีลูกค้าเข้ามาหยิบคีย์การ์ดในตู้ไปแค่นั้น พร้อมกับให้ค่าตอบแทนเดือนละ 10,000 บาท ซึ่งตั้งแต่ตู้ถูกนำมาวางไว้ก็มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติแวะเวียนกันมาเปิดตู้เพื่อเอาคีย์การ์ดกันแทบทุกวัน ซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจและไม่รู้มาก่อนว่าการทำแบบนี้เป็นเรื่องผิดกฏหมาย หากมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบก็ยินดีให้ความร่วมมือ
ผู้พักอาศัยในคอนโดฯ คนหนึ่ง บอกว่า ซื้อห้องที่คอนโดฯ ตั้งแต่ปี 2559 ช่วงแรกทุกอย่างปกติดี จนกระทั่งผ่านพ้นช่วงโควิด-19 เริ่มมีการปล่อยเช่าแบบรายวัน จนนึกว่าพักอยู่โรงแรม เพราะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยกันฃากกระเป๋าเข้ามาพักที่คอนโดฯแบบไม่ซ้ำหน้าทุกวัน ซึ่งผลที่ตามมาคือความเดือดร้อนรำคาญ นักท่องเที่ยวที่เข้าพักส่งเสียงดังตลอดทั้งคืน ได้กลิ่นกัญชาไปทั่วทั้งชั้น ทรัพย์สินส่วนกลาง เช่น สระว่ายน้ำ และฟิตเนส นักท่องเที่ยวพากันเข้าไปใช้บริการจนพังเละเทะ ไม่ได้ใช้งานมานานแล้ว เคยประชุมร่วมกับนิติคอนโดฯ ซึ่งทางนิติฯ ก็แก้ปัญหาด้วยการติดตั้งเครื่องสแกนใบหน้า ที่บริเวณประตูทางเข้า แต่สุดท้ายก็ยังมีชาวต่างชาติแอบลักลอบเข้ามาพักได้ตามเดิม
ระหว่างนั้นได้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติชาวอังกฤษ อายุ 22 ปี เข้ามาที่คอนโดฯ สอบถาม ทราบว่า ติดต่อเข้าพักที่คอนโดฯ ผ่านแอปพลิเคชัน Aribnb มีเอเจนซี่ชื่อ มิคกี้ เป็นผู้ประสานงานให้ ซึ่งตนมาเข้าพัก 4 วัน จ่ายไป 5,100 บาท และรู้สึกตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้นในไทย
เบื้องต้น สำนักงานเขตสาทร พร้อมตำรวจ สน.ยานนาวา ลงพื้นที่ตรวจสอบที่คอนโดฯ โดยนิติบุคคลคอนโดฯ ปฏิเสธว่าไม่ทราบปัญหาที่เกิดขึ้น นิติบุคคลคอนโดฯ ดูแลเฉพาะลูกบ้านที่พักอาศัยอยู่เท่านั้น การไล่ตรวจสอบเจ้าของห้องที่ปล่อยเช่ารายวัน ทำได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากเจ้าของห้องบางส่วนเป็นชาวต่างชาติ อาศัยอยู่ต่างประเทศ เบื้องต้นเขตได้กำชับกับนิติบุคคลให้ช่วยดูแล ห้ามปล่อยเช่าในลักษณะรายวัน